เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมากลุ่มกองทัพประชาชนฯ(กปท.) ที่เคยปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่สวนลุมพินีได้เคลื่อนขบวนมาปักหลักชุมนุมที่บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลแทน
เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวในครั้งนี้จะขีดวงจำกัดลงมาไม่ได้ครอบคลุม 22 แขวง โดยในพื้นที่เขตดุสิต เฉพาะแขวงดุสิต แขวงจิตรลดา, เขตพระนคร เฉพาะแขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงตลาดยอด แขวงบวรนิเวศน์ แขวงบ้านพานถม แขวงบางขุนพรหม และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เฉพาะแขวงวัดโสมนัส
โดยช่วงบ่ายวันนี้เวลาประมาณ 15.30 น.พล.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) ที่มี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เป็นผู้อำนวยการ ศอ.รส.
"ที่ต้องมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง เพราะประเมินสถานการณ์แล้วมีความสุ่มเสี่ยง และการชุมนุมของกลุ่ม กปท.มีแนวโน้มยืดเยื้อ ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องรับแขกต่างประเทศ(นายกรัฐมนตรีจีน) และมีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณากฎหมายที่สำคัญในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งหากกลุ่มผู้ชุมนุมไปปักหลักที่สวนลุมพินีก็จะไม่กระทบต่อการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาล" เลขาธิการ สมช.กล่าว