กมธ.เสียงข้างมากเห็นชอบกำหนดกรอบนิรโทษ 19 ก.ย.49-10 พ.ค.53 ไม่รวมแกนนำ

ข่าวการเมือง Friday October 11, 2013 12:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาในขั้นตอนของหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ซึ่งกรรมาธิการมีความเห็นแตกเป็น 2 ฝ่าย โดยกรรมาธิการเสียงข้างมากเห็นว่าไม่ควรแปรญัตติในหลักการและเหตุผลหรือแก้ไขตัดทอนถ้อยคำ เพราะหลักการและเหตุผลได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระ 1 มาแล้ว ขณะที่กรรมาธิการเสียงข้างน้อยเห็นว่าจำเป็นต้องแปรญัตติ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเนื้อหาและไม่ให้กระทบต่อบุคคลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ดี นายสามารถ ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น พร้อมกับให้สมาชิกลงมติออกเสียง ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่ลงมติเห็นด้วยว่าควรคงไว้ตามหลักการและเหตุผลของร่างที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบมาก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาหลักการและเหตุผลเสร็จสิ้นแล้ว กรรมาธิการได้เริ่มพิจารณาเป็นรายมาตรา โดยที่ประชุมได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางในมาตรา 3 เรื่องกรอบเวลาที่จะใช้กำหนดการนิรโทษกรรมและบุคคลที่จะได้รับการนิรโทษกรรมในเหตุการณ์ทางการเมือง โดยกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าควรกำหนดกรอบเวลาตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.49-10 พ.ค.53 ซึ่งผู้ที่เข้าข่ายที่จะได้รับการนิรโทษกรรมจะต้องเป็นผู้ที่กระทำความผิดในการแสดงออกทางการเมืองที่เกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมืองเท่านั้น แต่ไม่รวมถึงการกระทำใดๆ ของผู้ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจหรือสั่งการให้มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วงระยะเวลาดังกล่าว

ขณะที่กรรมาธิการฯฝ่ายค้าน เห็นว่าไม่ควรเลือกช่วงเวลาการนิรโทษกรรมตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.49 เนื่องจากมีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งเงื่อนไขที่จะได้รับการนิรโทษกรรมคลุมเครือและกว้างเกินไป เนื่องจากคดีแต่ละคดีมีความแตกต่างกัน หากยึดตามหลักของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ผู้ที่กระทำความผิดทางอาญาจะได้รับประโยชน์ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ