"การพิจารณาต่อในวันนี้ ฝ่ายค้านจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เพื่อไม่ให้ประเทศต้องเสียผลประโยชน์เหมือนกรณีไทย-กัมพูชา ลงนามขึ้นทะเบียนมรดกโลก และเพื่อให้เกิดความชัดเจน มิเช่นนั้นถ้ารัฐบาลไปสมคบกับต่างชาติในการลงนามหนังสือสัญญาต่างๆร่วมกัน โดยที่ไทยอาจเสียประโยชน์ คนที่ทำผิดก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ" นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าว
โดยภาพรวมการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 190 เมื่อวานนี้(15 ต.ค.) ฝ่ายค้านพยายามชี้ให้เห็นถึงความพยายามในการแก้รัฐธรรมนูญมาตรานี้มีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อน และการหมกเม็ดผลประโยชน์ โดยเฉพาะคนบางกลุ่มที่อยู่ใกล้ชิดกับรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านยังเหลือผู้อภิปรายอีก 30 คน ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาขอแปรญัตติอีก 20 คน และไม่ทราบว่าจะจบในวันนี้หรือไม่ เพราะถือเป็นสิทธิของสมาชิกในการแสดงความคิดเห็น และผู้ทำหน้าที่ประธานการประชุมต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา อย่าเร่งรัดจนเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดความวุ่นวาย อีกทั้งการนำเสนอคลิป หรือข่าวจากสื่อต่างๆ เป็นเรื่องปกติที่ดำเนินการกันมา
"การที่ประธานการประชุมไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในการอภิปรายถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะการเปิดคลิป หรือการนำข่าวจากสื่อต่างๆ มานำเสนอในการอภิปรายเป็นเรื่องที่มีสมาชิกดำเนินการในการอภิปรายมาตลอด" นายจุรินทร์ กล่าว
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันพรุ่งนี้(17 ต.ค.) ฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้ถามสดรัฐบาล เรื่องการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่ 3 เขตของ กทม.ว่าจะยกเลิกหรือจะขยายเวลาและพื้นที่ต่อไปอีก เพราะส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน
นอกจากนี้จะตั้งกระทู้ถามสดเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยเฉพาะข้อมูลที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าจีนจะซื้อข้าวจากไทย 5 ปี 5 ล้านตันนั้นจริงหรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีของจีนระบุว่าจะซื้อจากไทย 5 ปี จำนวน 1 ล้านตัน จึงต้องการทราบความชัดเจน พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเดินทางมาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง