ทางศาลโลกได้โทรศัพท์แจ้งมายังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นช่วงที่นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ในฐานะตัวแทนคณะดำเนินการทางกฎหมายของไทยอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากศาลโลกได้เลื่อนคดีของเปรูและชิลีออกไปแล้วนำคดีพระวิหารระหว่างไทยกับกัมพูชามาขึ้นมาดำเนินการแทน ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าจะไม่ส่งผลให้มีฝ่ายใดได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ เนื่องจากมีเป้าหมายให้ประชาชนได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ทั้งนี้ การดำเนินคดีทางกฎหมายคดีพระวิหารเป็นเรื่องที่ฝ่ายไทยได้เฝ้ารอคำตัดสินมาตลอด 1 ปี โดยเชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจและรับได้ในคำตัดสินครั้งนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะทำงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือถึงการพัฒนาร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดี