ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ระหว่างวันที่ 9-18 ต.ค.ในพื้นที่เขตดุสิต เฉพาะแขวงดุสิต แขวงจิตรลดา, เขตพระนคร เฉพาะแขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงตลาดยอด แขวงบวรนิเวศน์ แขวงบ้านพานถม แขวงบางขุนพรหม และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เฉพาะแขวงวัดโสมนัส
แหล่งข่าว กล่าวว่า สาเหตุที่เสนอให้ขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ออกไป เนื่องจากศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(ศอ.รส.)ได้รับรายงานว่าจะมีผู้เดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมกับกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) ที่ปักหลักอยู่บริเวณแยกอุรุพงษ์เพิ่มมากขึ้น และมีผู้ให้การสนับสนุนเข้ามาประสมโรง ขณะเดียวกันมีผู้ชุมนุมบางกลุ่มที่มีพฤติกรรมนิยมความรุนแรง
ส่วนที่รัฐบาลไม่ขยายพื้นที่การบังคับใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ออกไปจากเดิมก็เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพราะเมื่อขยายพื้นที่การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวแล้วก็ต้องผลักดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกไปจากแยกอุรุพงษ์ และต้องเคารพสิทธิของประชาชนที่สามารถชุมนุมได้ แต่อาจนำ พ.ร.บ.จราจร มาบังคับใช้เพื่อผลักดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมพ้นจากผิวการจราจร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ต้องการเพียงรักษาสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศไว้เท่านั้น