“การขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรถึงวันที่ 30 พ.ย. ถือเป็นความชอบธรรม สมเหตุสมผล รอบคอบ รัดกุม เพราะวันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศเชิญชวนกลุ่มชาวสวนยางเข้ามาสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวนลุมพินี อีกทั้งยังมีกลุ่มที่หวังผลประโยชน์และผลกระทบจากการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลก เพื่อยกระดับการชุมนุมขับไล่รัฐบาล
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเชื่อว่าผลการพิจารณาของศาลจะออกมาไปในทางที่ดี ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่สลายการชุมนุมหรือใช้ความรุนแรง หากสถานการณ์กลับคืนสู่ปกติหรือไม่มีความสุ่มเสี่ยงให้เกิดความรุนแรง รัฐบาลพร้อมยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ" นายอนุสรณ์ กล่าว
สำหรับการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรมในชั้นกรรมาธิการเสียงข้างมากวานนี้ ที่เห็นว่าควรจะครอบคลุมคำตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และอาจจะเป็นผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลุดคดี รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เป็นเรื่องเสียงข้างมากของคณะกรรมาธิการ แต่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ผมขอตั้งข้อสังเกตว่าการออกมาเปิดประเด็นนี้ของคนในพรรคประชาธิปัตย์เพราะหวังประโยชน์ ทั้งสามารถเรียกร้องความสนใจให้กับพรรคประชาธิปัตย์ และสร้างความหวาดระแวงระหว่างรัฐบาลกับคนเสื้อแดงได้