นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา มองว่า ขณะนี้การนิรโทษกรรมไม่เพียงแต่กระทำกันอย่างสุดซอย แต่ได้ทะลุซอยไปแล้ว เพราะจะมีผลครอบคลุมถึงแกนนำและผู้ที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งจากที่ตอนแรกบอกว่าจะให้การนิรโทษกรรมมีผลเฉพาะประชาชนที่มาชุมนุมทางการเมืองเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับแกนนำและผู้สั่งการ ดังนั้น จากที่เคยเย้ยหยันว่าม็อบจุดไม่ติดนั้น ขณะนี้ม็อบถูกจุดติดแล้ว และการต่อสู้จะย้ายจากในสภาฯ ไปเป็นการต่อสู้บนถนน ซึ่งจะได้เห็นกันในระยะอันใกล้นี้
"คนเผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลาง ยิงเอ็ม 79 โกงบ้านโกงเมืองก็พ้นผิด ถือเป็นกฎหมายศาลเตี้ย มีผลในการสั่งสมความคั่งแค้นของประชาชน เมื่อถึงจุดที่ทนไม่ได้ก็จำเป็นต้องมีปฏิบัติการที่ไกลไปกว่าที่ผู้ปกครองบ้านเมืองคาดหมายได้" นายประสาร กล่าว
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับประชาธิปไตยว่าเป็นอำนาจของประชาชนหรือนักการเมืองนั้น 62.5% เห็นว่าเป็นประชาธิปไตยของนักการเมืองเท่านั้น มีเพียง 37.5% ยังเข้าใจว่าประชาธิปไตยยังเป็นของประชาชน เพราะระบบพรรคยังเป็นเจ้าของคนเดียว เป็นประชาธิปไตยจอมปลอม รัฐบาลที่มาจากเจ้าของพรรคคนเดียวถือเป็นรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ส.ส.ที่สังกัดพรรคนี้ก็ไม่มีความเป็นประชาธิปไตยเช่นกัน
"ล่าสุดพรรคเพื่อไทยได้ออกกฎหมายล้างผิดให้ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฉบับสุดซอยหรือจนตรอก เพื่อล้างทุกคดีทุจริต ถือเป็นการยอมเปิดเผยตัวตน จากที่เคยหลอกประชาชนว่าเป็นนักประชาธิปไตย ทำเพื่อประชาชน ดังนั้นขอเรียกร้องให้ประชาชนที่รักชาติ รักระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัติรย์ทรงเป็นประมุข ออกมายุติการกระทำของพรรคที่มีเจ้าของคนเดียวให้ได้โดยเร็ว" นายไพบูลย์ กล่าว
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การแก้ไขในชั้นกรรมาธิการฯ มีความขัดกับหลักการและเหตุผลของร่างดังกล่าวที่ต้องการล้างผิดทางการเมืองให้กับประชาชนทุกสีทุกกลุ่มจากการชุมนุมทางการเมือง โดยไม่นิรโทษกรรมให้กับแกนนำ แต่ก็มีการแก้นิรโทษความผิดทางอาญา ภายหลังที่ศาลตัดสินยึดทรัพย์บุคคลคนเดียวที่ไม่เกี่ยวกับการชุมนุม อาจต้องคืนเงินรวมดอกเบี้ยแล้วเป็นเงิน 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งคนไทยทุกคนจะต้องรับภาระหนี้จำนวนนี้เฉลี่ยคนละ 1,000 บาท
พร้อมมองว่า การพิจารณากฎหมายลักษณะนี้จะสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานรัฐบาลที่มีปัญหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั้นมากมาย เหมือนกับเป็นการท้าทายม็อบขณะนี้ที่ชุมนุมบริเวณแยกอุรุพงษ์ และสวนลุมพินี ซึ่งพรรคเสียงข้างมากก็มีกลุ่มคนเสื้อแดงหนุนหลัง
ขณะที่ฝ่ายค้านและม็อบกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ(กปท.) เตรียมเป่านกหวีดประกาศระดมคนให้มาต่อต้านในวันที่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะเข้าสภาฯ หากเกิดการปะทะจนเป็นวิกฤติของชาติ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ ดังนั้น ขอเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงมาแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนก่อนที่วิกฤติการเมืองจะลุกลามใหญ่โตออกไป ซึ่งหากใช้เสียงข้างมากในสภาฯแก้ไขปัญหาไม่ได้ ก็ขอเสนอให้ยุบสภาฯ หรือลาออกไปเลย