อย่างไรก็ตาม ในเดือน พ.ย.นี้ นายกรัฐมนตรี ยังมีกำหนดเดินทางเยือนสิงคโปร์ในช่วงปลายเดือน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังหวังว่าไม่ว่าคำสั่งของศาลจะออกมาในทางใดก็อยากให้อยู่ในพื้นฐานของการบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกัน และความเข้าใจกันระหว่างไทยกับกัมพูชา รวมทั้งขอให้คนไทยโดยรวมเข้าใจว่านี่คือความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านที่ท้ายสุดแล้วต้องอยู่ร่วมกัน ซึ่งภายในไม่ช้าก็จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) การเรียนรู้จะอยู่ร่วมกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ
พร้อมกับมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงดูแลกลุ่มที่อาจจะออกมาก่อความวุ่นวายบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนจะมีการตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์หรือไม่นั้น คงเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงที่จะประเมินและรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศก็จะมีหน่วยงานประสานเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชน