นิด้าโพล เผยชาวบ้านค้านนิรโทษกรรมสุดซอย,ชี้หากเข้าสภาวาระ 2 ม็อบแรงแน่

ข่าวการเมือง Wednesday October 23, 2013 10:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นิด้าโพล เผยประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 57.91 ไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ให้การนิรโทษกรรมครอบคลุมทุกฝ่าย รวมทั้งแกนนำ ผู้สั่งการ และผู้ถูกกว่าวโทษจากการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ซึ่งรวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะจะส่งผลให้กฎหมายที่มีอยู่ขาดความศักดิ์สิทธิ์
"ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 57.91 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะควรดำเนินการตามกฎหมาย ทำให้กฎหมายบ้านเมืองหละหลวม ขาดการบังคับใช้ที่ไม่จริงจัง ใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด และอาจกลายเป็นบรรทัดฐานในทางที่ไม่ถูกต้องในสังคม เกิดปัญหาความขัดแย้งกัน" เอกสารเผยแพร่ ระบุ

ขณะที่ประชาชนร้อยละ 29.07 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะทุกๆ ฝ่ายจะได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นแกนนำหรือผู้สั่งการ และจะได้ไม่ต้องมีเรื่องขัดแย้ง ปัญหาความขัดแย้ง ความวุ่นวายต่างๆ ก็จะยุติลง ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 13.02 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 65.89 ยังไม่เห็นด้วยหาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านความเห็นชอบแล้วมีผลทำให้การยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ จำนวน 4.6 หมื่นล้านบาทเป็นโมฆะ และรัฐบาลจำเป็นต้องคืนเงินดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ยให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิด และเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยมิชอบ ซึ่งได้ดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้ว อาจมีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยออกมาประท้วง เกิดความขัดแย้งความวุ่นวายตามมา มีประชาชนเพียงร้อยละ 20.05 ที่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความผิด และเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยสุจริตจึงควรที่จะคืนทรัพย์สินให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 14.06 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

และประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 55.83 เชื่อว่า เมื่อมีการนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสภาฯ ในวาระ 2 จำนวนผู้ชุมนุมประท้วงมีมากขึ้น และมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง รองลงมาร้อยละ 11.10 เชื่อว่าจะไม่มีความวุ่นวายใดๆ ทางการเมืองเกิดขึ้น เพราะรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ตามด้วยร้อยละ 6.07 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีอาจยุบสภา, ร้อยละ 5.43 ระบุว่า พรรคเพื่อไทยยอมแก้ไขร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ครอบคลุมเฉพาะประชาชนผู้ชุมนุมทางการเมืองแต่ไม่รวมแกนนำ, ร้อยละ 4.79 ระบุว่า พรรคเพื่อไทยยอมถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากการพิจารณา, ร้อยละ 3.12 ระบุว่า อาจเกิดการรัฐประหาร, ร้อยละ 0.96 ระบุว่า อาจมีการชุมนุมประท้วงกัน แต่อาจจะไม่รุนแรง และร้อยละ 12.70 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

"ผลสำรวจแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมแบบล้างความผิดและล้างโทษแบบสุดซอย ไม่เห็นด้วยกับการคืนทรัพย์สินที่ถูกยึดจากการทุจริต และเชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยผลักดันร่าง พ.ร.บ.จนผ่านสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาไปได้ จะนำไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรงทางการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" นายพิชาย รัตนดิกล ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม กล่าว

นายพิชาย กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงยึดหลักนิติรัฐนิติธรรม เพราะพวกเขาเชื่อในหลักการที่คนกระทำความผิดควรจะได้รับโทษ รวมทั้งยังแสดงอย่างมีนัยถึงการไม่ยินยอมที่ให้ฝ่ายนิติบัญญัติล้มล้างอำนาจศาล เพราะว่าเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ. ที่ผ่านกรรมาธิการฉบับนี้จะลบล้างอำนาจศาลด้วยการล้างโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย เมื่ออำนาจศาลถูกล้มล้างสังคมก็จะไม่มีหลักนิติรัฐใดๆให้ยึดต่อไปอีก คงเหลือแต่เพียงหลักเสียงข้างมากซึ่งถูกผลักดันโดยความปรารถนาแห่งผลประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น

สำหรับผลพวงของร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ซึ่งจะทำให้ต้องคืนทรัพย์สินของรัฐแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น แม้นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลจะพยายามกลบเกลื่อนว่าไม่มีผล แต่ไม่อาจหลอกหรือตบตาประชาชนได้ ดังนั้นพวกเขาจึงยืนยันว่ารัฐไม่ควรจัดสรรทรัพย์สินของรัฐแก่ใครทั้งสิ้น แต่หากร่าง พ.ร.บ.นี้ผ่านไปได้หมายถึงคนไทยทุกคนจะต้องจ่ายเงินแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้

"หากร่าง พ.ร.บ.นี้ผ่านสภาไปได้ ประชาชนส่วนใหญ่จึงเชื่อว่าจะเกิดความขัดแย้งและรุนแรงทางการเมืองอย่างแน่นอน ขณะนี้สัญญาณของความรุนแรงก็เริ่มปรากฎขึ้น แม้กระทั่งในฝ่ายมวลชนเสื้อแดงเองก็แสดงปฏิกิริยาต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นี้อย่างกว้างขวางทั้งในเครือข่ายสังคมและการแสดงออกทางการเมืองในรูปแบบอื่นๆ" นายพิชาย กล่าว

ทั้งนี้ นิด้าโพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “พ.ร.บ. นิรโทษกรรมกับความวุ่นวายทางการเมือง" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 21-22 ตุลาคม 2556 จากประชาชนทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,252 หน่วยตัวอย่าง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ