"หากพรรคเพื่อไทยไม่กลับไปใช้ฉบับของนายวรชัย เหมะ พรรคเพื่อไทยจะได้รับแรงกดดันอย่างชัดๆ ก่อนหน้านี้เราเคยกดดันยังไง เราก็จะกดดันในลักษณะนั้นเลย" นายสมบัติ กล่าว
นายสมบัติ กล่าวว่า ตอนที่จะมีการนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าที่ประชุมสภาฯ ก็ได้รับการยืนยันว่าจะเป็นนิรโทษกรรมฉบับประชาชนเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับแกนนำหรือผู้สั่งการ แต่กลับมีการเปลี่ยนแปลงเกินเลยไปจากที่เคยประกาศไว้
"ไปๆมาๆ ก็มาขนาดสุดซอย นี่ก็เท่ากับ พ.ร.บ.ปรองดองที่ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เสนอก่อนหน้านี้ นี่เป็นวิธีคิดที่มีปัญหา หรือรู้แต่ต้นว่าจะเล่นเกมนี้แล้วมาเปลี่ยนแปลงร่างกันในตอนนี้ อย่างนี้หลอกลวงประชาชน" นายสมบัติ กล่าว
นายสมบัติ กล่าวว่า การทำงานจำเป็นต้องตรงไปตรงมา หากทำแบบนี้แล้วหลังจากนี้ไปคงจะเชื่อใจกันได้ยาก ในอนาคตหากจะมีการเสนอว่าจะทำอะไร จะเชื่อถือได้อย่างไรว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่น่าเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างนี้
"หากผู้ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนที่ร่วมต่อสู้ทางการเมืองมีจุดยืนอย่างไร หากไม่ทำ กระบวนการเสื้อแดงที่สู้กันมาจะไม่มีความชอบธรรมที่จะยืนอยู่ เป็นการสลายกระบวนการเสื้อแดงโดยแท้จริง" นายสมบัติ กล่าว