เนื่องจากเห็นว่าเรื่องนี้มีการวางลำดับขั้นตอนรับลูกการทำงานกันอย่างเป็นระบบตั้งแต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ขะมักเขม้นทำเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ดูเหมือนจะมีการทำงานในเรื่องดังกล่าวอยู่เพียงเรื่องเดียว และการที่รัฐบาลนั้นมีความต้องการที่จะกดดันนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพให้รับกระบวนการนิรโทษกรรมซึ่งจะล้างผิดแบบเหมาเข่งนั้นก็ยิ่งไม่เป็นที่แปลกใจที่อัยการสูงสุดต้องมีคำสั่งออกมาในลักษณะนี้
นายชวนนท์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อเข้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หากทำผิดก็ต้องรับโทษ เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปกระทำเช่นนี้อีก ขอเพียงอย่างเดียวว่ารัฐบาลอย่ามาออกกฎหมายล้างผิดให้กับพวกตนเพราะทั้ง 2 ท่านยืนยันจะไม่รับกฎหมายนิรโทษกรรมทุกรูปแบบ และอย่าหวังจะใช้กรณีอย่างนี้มากดดันให้พรรคประชาธิปัตย์ยอมรับการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง
"เป็นคำวินิจฉัยที่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะวันนี้สังคมไทย ราชการไทยภายใต้ระบอบทักษิณนั้นได้ทำลายระบบนิติรัฐ และนิติธรรมของประเทศลงอย่างชัดเจน เมื่ออัยการกล้ามีคำสั่งก็ต้องรับผิดชอบหากมีการร้องเรียนว่าเป็นการกระทำที่มิชอบ หรือการใช้อำนาจเกินขอบเขต...เรายืนยันที่จะต่อต้านกฎหมายดังกล่าวอย่างเต็มที่ทั้งในและนอกสภาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง" โฆษก ปชป. กล่าว