นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่ได้เร่งรัดนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาแต่เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากผ่านความเห็นชอบวาระ 1 แล้ว จึงต้องพิจารณาวาระ 2 และ 3 ให้แล้วเสร็จตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายอย่างเต็มที่ตามความเหมาะสม ส่วนที่ฝ่ายค้านทักท้วงว่ากฎหมายดังกล่าวเข้าข่ายกฎหมายการเงินก็จะเรียกประชุมคณะกรรมาธิการทั้ง 35 คณะ เพื่อพิจารณาว่าร่างนี้เข้าข่ายกฎหมายการเงินหรือไม่
"ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการคืนความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบโดยไม่เจาะจงเฉพาะบุคคลหรือทำตามใบสั่งใคร ทำเพื่อสร้างความปรองดอง จึงมั่นใจว่าจะไม่เป็นชนวนที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ส่วนการรักษาปลอดภัยนั้นได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ประเมินสถานการณ์" นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้านนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวว่า ได้ลงนามเห็นชอบให้บรรจุระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ ในวันที่ 31 ตุลาคม เวลา 09.30 น.เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่คณะกรรมาธิการวิสามัยฯ พิจารณาเสร็จแล้ว และแจ้งวาระการประชุมดังกล่าวให้ ส.ส.ทราบแล้ว
"เป็นเรื่องที่มีผลกระทบและได้รับความสนใจจากประชาชน เพราะหากกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาฯ ก็จะคืนความสงบ ความชอบธรรมให้ประชาชน" นายเจริญ กล่าว
ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมเคลื่อนไหวคัดค้านเรื่องดังกล่าวนั้น นายเจริญ กล่าวว่า การบรรจุวาระการประชุมเป็นการทำตามข้อบังคับ ส่วนเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จะอธิบายว่ามีผลกระทบหรือมีความจำเป็นอย่างไร และเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ เชื่อว่าหากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ผ่านสภาฯ ไปได้จะไม่เป็นตราบาปของสภาผู้แทนราษฎร