"เชื่อว่าเป็นเจตนารมย์ของ ส.ส. ต้องเคารพการตัดสินใจของแต่ละท่าน ในสภาฯ ต้องอภิปรายกันกว้างขวาง ซึ่งจะมีโอกาสอธิบายถึงเนื้อหาสาระ ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย และเชื่อว่าสภาฯ จะเป็นเวทีที่ดีสุดในการแก้ปัญหา" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนดื้อตาใสอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวหา และนายอภิสิทธิ์อยู่ในสภาฯ มานานน่าที่จะรู้ดีว่า อำนาจของฝ่ายบริหารกับอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัตินั้นทำงานแยกส่วนกัน ตนเองมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นของ ส.ส.ไม่ใช่ของรัฐบาล
ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่อยู่ในขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการยุติธรรม น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การพิสูจน์ค้นหาความจริงก็ยังต้องเป็นไปตามกระบวนการ ส่วนการนิรโทษกรรมก็เป็นเจตนารมย์ของทุกภาคส่วนที่ต้องการให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ซึ่งที่ประชุมสภาจะได้พิจารณาเรื่องภายใต้กรอบของกฎหมายตามหลักนิติรัฐและนิติธรรม
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอให้เริ่มต้นใหม่(Set Zero) นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องการให้ประเทศเดินต่อไปข้างหน้า แต่จำเป็นต้องใช้เวลาและพูดคุยกัน อยากให้ทุกฝ่ายมองผลประโยชน์ของประเทศชาติ อยากให้เกิดความสงบ ซึ่งที่ผ่านมา 2 ปี รัฐบาลก็พยายามหาวิธีการมาตลอด แต่ยังไม่มีทางออก
"รัฐบาลจะพยายามทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด เวทีที่จะพูดคุยกันเพื่อหาทางออกนั้นเป็นเวทีใดก็ได้ แต่ให้อยู่บนพื้นฐานความเข้าใจและความเห็นใจซึ่งกันและกัน" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธไม่รู้เรื่องกรณีมีข่าวนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ขอร้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอย หลังจากที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว