ส่วนจะต้องชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และจำนวนมวลชน แต่หากรัฐบาลยอมถอนร่างกฎหมายนี้ออกจากสภาฯ ก็จะยุติการชุมนุมเคลื่อนไหวในทันที โดยนายสุเทพ ระบุด้วยว่าขณะนี้พร้อมแล้วที่จะมาเป็นแกนนำมวลชนอย่างเต็มตัว โดยขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
"ผู้แทนก็ทำหน้าที่ในสภา ประชาชนก็ต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วนมั่นใจแค่ไหนกับการต่อสู้ครั้งนี้ ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพันถ้ารัฐบาลยังมีสติ มีจิตสำนึก รัฐบาลต้องมองภาพให้ออกว่าประชาชนทั้งประเทศเขาไม่เห็นด้วย"
"สถานการณ์จะจบอย่างรวดเร็วถ้านายกฯ ยิ่งลักษณ์ มีจิตสำนึกที่ดี รู้ว่ามาเป็นนายกฯ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่ทำร้ายหัวใจประชาชน ต้องลุกขึ้นประกาศถอนกฎหมายนิรโทษกรรมออกไป ไม่ทำอีก การต่อสู้ของพวกผมก็จบ แต่ถ้านายกฯ ยังถือว่าการต่อสู้ของพี่ชายสำคัญกว่า ประชาชนไม่สำคัญ ดูถูกประชาชน ทรยศประชาชน พวกผมก็ต้องลุกขึ้นจัดการกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์"นายสุเทพ กล่าว
พร้อมระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้มีการวางยุทธศาสตร์อะไรเป็นพิเศษ แต่เป็นการทำอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา และประชาชนต่างก็มามือเปล่า ไม่มีการพกพาอาวุธ ในขณะที่จะมีอาสาสมัครเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ชุมนุม โดยจะไม่ขอใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยดูแล เนื่องจากไม่ไว้วางใจการทำงานของตำรวจ
สำหรับรูปแบบการชุมนุมในวันนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ประชาชนสามารถทำได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เช่น ถ้าอยู่ในกรุงเทพก็สามารถมาร่วมการชุมนุมได้ที่สถานีรถไฟสามเสน แยกอุรุพงษ์ สวนลุมพินี ส่วนในต่างจังหวัด คือที่ศาลากลางจังหวัด
นายสุเทพ กล่าวว่า การชุมนุมในครั้งนี้เป็นการประกาศศักดิ์ศรีความเป็นเจ้าของประเทศของประชาชน เพราะยอมไม่ได้ที่จะมีกฎหมายนิรโทษกรรมออกมาบังคับใช้ และเห็นว่าหากนายกรัฐมนตรียังดื้อดึงที่จะให้มีการผ่านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมสุดท้ายแล้วก็อาจจะไม่มีแผ่นดินอยู่