โฆษก ปชป. กล่าวต่อว่า การดำเนินการเร่งรัดลงมติเมื่อคืนถือเป็นการท้าทายอำนาจประชาชนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งวันนี้คาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากออกมาร่วมชุมนุมคัดค้าน โดยไปที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องมาที่เวทีข้างสถานีรถไฟสามเสน
ส่วนแนวทางการต่อสู้จะทำทุกวิถีทาง ทั้งการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ และองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน เพราะถือว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ถือเป็นการละเมิดเพราะเป็นการให้อภัยคนที่ทำร้ายประชาชน ขณะเดียวกันกฎหมายฉบับนี้ขัดต่อข้อบังคับข้อ 117 วรรค 3 ที่เนื้อหาขัดต่อหลักการทำให้กฎหมายดังกล่าวไม่ชอบ
ทั้งนี้ การชุมนุมคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะทำอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นวันหยุดจนกว่ารัฐบาลจะยอมถอย
อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้นายกรัฐมนตรียังทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่หากการเคลื่อนไหวของประชาชนแล้วได้รับอันตรายเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมุ่งกระทำเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนายกรัฐมนตรีเอง
ส่วนกรณีกรมการปกครองทำหน้งสือถึงจังหวัดให้ทำป้ายสนับสนุนพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นกระบวนการล้างสมองประชาชน โดยใช้เงินภาษีของประชาชน เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าการนิรโทษกรรมไม่ใช่การสร้างความปรองดองภายในชาติ
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ต่อไปคำว่า"ฆาตกร"คงจะนำมาใช้กล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อีกแล้ว เพราะการผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมเมื่อคืนนี้คือคนที่ช่วยเหลือฆาตกรเสียเอง
ส่วนกรณีส.ส.เสื้อแดงบางคนไม่ยกมือสนับสนุน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะมีข้อกำหนดว่า หากเป็นเรื่องของ Conflict of interest เนื่องจากส.ส.เสื้อแดงบางคนเป็นผู้ต้องหาในคดีพวกนี้อยู่ถ้ายกมือสนันสนุนจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ขณะเดียวกันก็จะใช้เป็นข้ออ้างเพื่อเอาความดีความชอบใส่ตัวว่าพวกตนไม่ได้สนันสุนให้มีพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้