อย่างไรก็ตาม มองว่ารัฐบาลควรฟังเสียงพลังมวลชนที่ออกมาคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ เพราะทั้งฝ่ายนักวิชาการ นักศึกษา นักธุรกิจ ประชาชนต่างไม่เห็นด้วยกับสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว
"รัฐบาลที่ดีต้องฟังเสียงประชาชน น่าจะเอาไปคิดทบทวน ทำในสิ่งที่สามารถหยุดความรู้สึกแง่ลบของคนได้" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ทั้งนี้ หากที่ประชุมวุฒิสภาลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประชาชนอาจจะใช้ในช่วงจากนี้เพื่อยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความว่าในวาระ 2 ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมคดีที่เกี่ยวกับการเงินเข้าไปด้วย นอกเหนือจากคดีการเมืองที่จะนิรโทษกรรมให้นั้น ศาลอาจจะใช้ประเด็นนี้วินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ก็เป็นได้
"เบื้องต้นหวังว่าวันที่ 11 พ.ย.จะหยุดได้ ถ้าหยุดได้ทุกคนก็จะเชื่อถือว่ารัฐบาลสามารถจัดการปัญหาได้ และเรื่องนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ใช่ว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว