นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลาวว่า กฎหมายนิรโทษกรรมไม่สามารถนำไปสู่การคืนเงิน 4 หมื่นกว่าล้านที่ถูกยึดไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ตามที่ถูกบิดเบือนโดยพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่ใช่กฎหมายการเงิน แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อนิรโทษกรรมผู้ที่ถูกจำคุกและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นการนิรโทษกรรมเหตุการณ์และให้มีความครอบคลุมบุคคลต่างๆ เพื่อให้อภัยและเมตตาต่อกัน ก้าวข้ามความขัดแย้งและคืนความเป็นธรรมให้กับเหยื่อรัฐประหารปี 49 เพราะเป็นการละเมิดหลักนิติธรรม และเพื่อไม่ให้มีการไปฉีกรัฐธรรมนูญ และตั้งองค์กรพิเศษ เช่น คตส. มาดำเนินคดีอย่างรวบรัดและลำเอียงกับบุคคลต่างๆ ในอนาคตอีก
"กฎหมายนิรโทษฯ ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อล้างผิดคนโกง แต่ทำขึ้นเพื่อล้างผลของการรัฐประหาร คนไทยทุกคน รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณควรถูกไต่สวนตามกระบวนการยุติธรรมปกติ โดยบุคคลที่ไม่ใช่ปฏิปักษ์ทางการเมือง....อยากให้คนไทยส่วนใหญ่ได้เข้าใจเจตนาดีของพรรคเพื่อไทยที่เสนอกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งและคืนความเป็นธรรมให้เหยื่อรัฐประหารปี 49 และหวังว่าการชุมนุมคัดค้านจะอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าไปได้ เพราะเราขัดแย้งมาหลายปี และประเทศเสียโอกาสไปมากแล้ว"นายนพดล กล่าว
สำหรับการเคลื่อนไหวชุมนุมในขณะนี้มีวัตถุประสงค์หลายอย่าง มีทั้งที่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทำเพราะไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือทำเพราะแพ้เลือกตั้งซ้ำซากและอยากกลับมาเป็นรัฐบาล
"ที่บอกว่ากฎหมายนิรโทษกรรม ล้างผิดคนโกงและทำลายหลักนิติธรรม ความจริงวันที่ทำรัฐประหารปี 49 เป็นการทำลายหลักนิติธรรม และเป็นจุดเริ่มต้นความขัดแย้ง การตั้งบุคคลเป็นปฏิปักษ์มาเป็น คตส. และสอบสวน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีความลำเอียงและอคติ เป็นการละเมิดหลักนิติธรรมแบบสุดซอย ทำไมคนบางกลุ่มไม่รู้สึกบ้าง" นายนพดล กล่าว