ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ผมเคารพความเห็นต่างของคนไทย แต่ไม่สามารถยอมรับการบิดเบือนใส่ร้ายด้วยความเท็จที่ผมและครอบครัวได้รับตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ความปรารถนาสูงสุดของผมคือต้องการให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น มีอนาคตที่มั่นคงและประเทศสามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ แต่เป็นที่น่าเศร้าใจที่มีนักการเมืองบางกลุ่มยังคงคิดว่าการโจมตีใส่ร้ายผมด้วยความเท็จจะช่วยให้พวกเขาได้รับความนิยมทางการเมือง ซึ่งวิธีการนี้ก็ถูกปฏิเสธโดยประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศในการเลือกตั้งทุกครั้งในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา
ผมขอเรียนว่า การรัฐประหารในปี 2549 ได้ละเมิดหลักนิติธรรมอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งการฉีกรัฐธรรมนูญของประชาชน และคนที่ยึดอำนาจผม ตั้งคนเป็นปฏิปักษ์ต่อตัวผม มาตั้งข้อกล่าวหาและสอบสวนอย่างเบ็ดเสร็จรวบรัด แม้การกระทำนี้ได้ก่อให้เกิดความอยุติธรรมแก่ผมและครอบครัว ผมขอรับความเจ็บปวดเอาไว้ เพื่อหวังให้ประเทศเดินหน้า ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ผมตระหนักว่าประโยชน์สุขของประเทศและประชาชนมาก่อนประโยชน์สุขส่วนตัวของผม สิ่งที่ผมอยากเห็นในขณะนี้คือความปรองดองสมานฉันท์ของคนไทย ผมอยากเห็นคนไทยมีความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน
แม้จะอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ผมยังรักและห่วงอนาคตของลูกหลานไทย และเชื่อมั่นว่าอนาคตของพวกเขาและอนาคตของประเทศไทยจะมีความมั่นคงก็ต่อเมื่อบ้านเมืองเรามีหลักนิติธรรมสำหรับคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม และประเทศมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ที่การตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่ผ่านการเลือกตั้งได้รับการเคารพ และองค์กรต่างๆ ใช้อำนาจในกรอบที่กำหนดโดยรัฐธรรมนูญ ผมเอาใจช่วยและหวังว่าเราจะไปถึงจุดนั้นในเวลาอันใกล้นี้
โดยท้ายสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ฝากขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ผ่านช่องทางต่างๆ ขอให้เปลี่ยนความรักและกำลังใจเหล่านั้น เป็นพลังในการสร้างความปรองดอง ประชาธิปไตย และหลักนิติธรรมให้เกิดขึ้นในประเทศไทยต่อไป"