ส่วนจะมีการประกาศพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพิ่มเติมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การชุมนุม แต่ยืนยันว่าจะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เท่าที่จำเป็น สำหรับการชุมนุมที่บริเวณราชดำเนิน รัฐบาลยังไม่มีการขยาย พ.ร.บ.ความมั่งคงฯเพิ่มเติม เนื่องจากอยากให้โอกาสในการเข้ามาพูดคุยกันก่อน
"การประกาศไม่กระทบกับประชาชน แต่เป็นผลดีกับประชาชน ซึ่งถ้าไม่ประกาศใช้ ผู้ชุมนุมก็จะมาปิดล้อมซึ่งรัฐบาลและรัฐบาลก็จะไม่สามารถทำงานได้ รวมถึงจะสร้างความเสียหายมากกว่านี้ แต่เมื่อเราใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงในเขตพื้นที่ที่จำกัด ทั้งรัฐบาลและรัฐสภา สามารถที่จะบริหารบ้านเมืองได้ และเป็นผลประโยชน์กับบ้านเมืองมากกว่า"
ผบ.ตร. กล่าวว่า ตอนนี้ห่วงสถานการณ์มือที่ 3 ที่อาจจะเข้ามาสร้างความวุ่นวาย ซึ่งการที่กลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่มจะมาร่วมตัวกันชุมนุม ก็ต้องค่อยๆ ดูสถานการณ์กันต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามหน้าที่และปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อดูแลประชาชน ซึ่งยืนยันว่าเรื่องของการใช้แก๊สน้ำตานั้น เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าหากมีความจำเป็นในเรื่องสถานการณ์ความไม่มั่นคง ก็ต้องดำเนินการเพื่อให้เหตุการณ์รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นยุติ
"ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้ามาในเขต พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เราก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และต้องรักษาพื้นที่ให้ได้ ประกอบกับขณะนี้มีรายงานเข้ามาตนจึงเป็นห่วงสถานการณ์ จึงต้องนำกำลังเข้ามารักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล"ผบ.ตร. กล่าว
สำหรับกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณทำเนียบรัฐบาลเป็นกองกำลังตำรวจตามแผน ทั้งหมด 40 กองร้อย แต่จำนวนไม่ถึง 1 หมื่นนาย อยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 นาย