"รัฐบาลนี้เคารพเสียงของประชาชน ยืนยันแล้วไม่นำ พ.ร.บ.นี้กลับมาพิจารณาเด็ดขาด ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวาย มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จะมีผลในการลดความเชื่อมั่นของต่างชาติ หลายประเทศเริ่มเตือน เราห่วงว่าจะกระทบเศรษฐกิจที่ทำให้ต่างชาติที่คิดจะลงทุนในประเทศไทย หรือที่ไทยอยากจะเป็นศูนย์กลางอาเซียนก็ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง รวมถึงกระทบต่อนักท่องเที่ยว และสุดท้ายก็มีผลมาถึงผู้ประกอบการและนักธุรกิจ" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีจุดมุ่งหมายคือเพื่อต้องการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนและได้รับผลพวงจากรัฐประหาร ดังนั้นที่มีการเผยแพร่ข้อมูลว่าจะเป็นการช่วยเหลือคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตด้วยนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนกังวล ทั้งโครงการรับจำนำข้าว โครงการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับพรบ.นิรโทษกรรมแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่มีข่าวลือว่ารัฐบาลจะใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามประชาชนนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลอยากเห็นสันติภาพและความสงบสุขเกิดขึ้นในประเทศไทย ดังนั้นการดูแลความมั่นคงในวันนี้ยังคงใช้กำลังของตำรวจทั้งหมด และยืนยันว่าไม่ได้สั่งการให้ทหาร หรือกองทัพเข้ามาดูแลด้านความมั่นคงในการชุมนุมครั้งนี้ รัฐบาลจะไม่ใช่ความรุนแรงกับประชาชน ทุกอย่างจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนยุติการชุมนุม และขอให้เชื่อในสิ่งที่ทุกฝ่ายได้แสดงเจตนารมย์ออกไปแล้วร่วมกันในการทำให้ประเทศเดินหน้า เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยบอบช้ำมากแล้ว จึงไม่อยากให้มีเหตุการณ์เข้ามาซ้ำเติมอีก
"ขอความกรุณาพี่น้องประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวลือต่างๆ กรุณารับฟังข้อมูลหลายด้าน ถ้าไม่จำเป็นเราขอวิงวอนว่าอย่าไปเข้าใกล้บริเวณต่างๆ ที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เราเกรงเหตุการณ์มือที่ 3 ซึ่งรัฐพยายามดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมและประชาชนที่สัญจรไปมา"
สุดท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ต่างๆ สามารถแก้ไขได้ด้วยการพูดคุยกัน เมื่อแต่ละฝ่ายได้ยื่นข้อเสนอต่างๆ เข้ามารัฐบาลก็พร้อมรับ รัฐบาลไม่อยากเห็นการชุมนุมยืดเยื้อ แต่อยากเห็นความสงบเกิดขึ้นในบ้านเมือง
"พ.ร.บ.ฉบับนี้ยกเลิกแล้ว และรัฐบาลจะไม่ฝืนความรู้สึกของประชาชน ไม่ใช่กำลังรุนแรง และรัฐบาลจะไม่ทำอะไรให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทอย่างเด็ดขาด" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังการแถลงข่าวโดยเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ อย่านำประเด็นการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมากลายเป็นทางการเมือง หลังจากมีบางกลุ่มได้ยกระดับการชุมนุมเป็นการขับไล่รัฐบาล พร้อมทั้งขอร้องฝ่ายค้านหยุดสร้างเงื่อนไขใหม่ๆ มาเรียกร้องหรือปลุกระดมมวลชน
"เราอยากขอความกรุณา เพราะทำตามทั้งหมดแล้ว เราได้ตอบสนองกลุ่มต่างๆครบถ้วนแล้ว" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
โดยสิ่งที่รัฐบาลให้ความมั่นใจได้คือ สภาฯ จะไม่มีการหยิบยกร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมกลับมาพิจารณาอีก หรือจะมีการพิจารณากฎหมายที่มีลักษณะใกล้เคียงอีก ซึ่งน่าเป็นสิ่งที่ประชาชนน่าจะสบายใจได้
ส่วนการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและยังถูกจำคุกอยู่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องนี้คงต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกภาคส่วน ซึ่งจำเป็นต้องหารือในรายละเอียดต่อไป ต้องเป็นไปทีละขั้นตอน แต่อยากให้ประชาชนสบายใจว่ารัฐบาลจะไม่มีพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมอีก