ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ รวมถึงจะไม่ให้มีมือที่สามเข้ามาก่อเหตุตามรายงานด้านการข่าว ซึ่งระบุว่าอาจจะเกิดเหตุขึ้นได้
นอกจากนี้ การข่าวยังประเมินว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อไปถึงสิ้นเดือนพ.ย. เพราะวันที่ 20 พ.ย.ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิฉัยว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ในประเด็นที่มาของ ส.ว.ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมทั้งจะรอจนถึงวันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในสัปดาห์หน้าด้วย
เลขาฯ สมช. มองว่า การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว แต่ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงไม่กังวลกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงมีการออกมาชุมนุมเพื่อปกป้องรัฐบาล เนื่องจากสามารถพูดคุยกันได้
สำหรับการประชุมของศูนย์ปฎิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปก.กปต.) ที่มีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะเป็นการหารือถึงยุทธศาสตร์ด้านต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะด้านการข่าว และรายงานความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขความรุนแรง
พร้อมกันนี้จะได้หารือข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งประเทศมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสร้างสันติภาพได้แจ้งว่า จะมีการพูดคุยอีกครั้งในช่วงต้นเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งเบื้องต้นมีกำหนดว่าจะมีกลุ่มบีอาร์เอ็นรวม 4 คน และครั้งนี้จะเพิ่มกลุ่มพูโล และ กลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามปาตานี(BIPP) อีกกลุ่มละ 2 คน โดยฝ่ายทหารยืนยันเห็นด้วยกับการพูดคุยที่จะเริ่มขึ้น แต่จะต้องมีการเฝ้าระวังในพื้นที่เป็นพิเศษ