ทั้งนี้ จากการประเมินด้านการข่าวของการชุมนุมในช่วงเย็น ยังไม่ทราบว่าจะมีการเคลื่อนไหวในลักษณะใด แต่คาดว่า ผู้ชุมนุมจะมีจำนวนมากเป็นหลักหมื่น แต่คงมีจำนวนไม่เท่ากับการชุมนุมในวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา และคาดการณ์ การเคลื่อนตัวของผู้ชุมนุม จะส่งผลกระทบกับการจราจร ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานจราจร กับ บก.จร. จัดทำแผนงานด้านการจราจรเพื่อรองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชุมนุม
ด้านพล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงมาตรการเตรียมความพร้อมจัดการจราจร กรณีผู้ชุมนุมนัดชุมนุมใหญ่วันนี้ว่า พล.ต.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้สั่งการให้เตรียมแผนรองรับการจราจรในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งผู้ชุมนุมอาจเคลื่อนตัวปิดถนนจุดใด จุดหนึ่ง จนทำให้การจราจรติดขัดถึงขั้นเป็นอัมพาต
"ทางด้านการข่าว พบว่า ในช่วงเย็น ประมาณ 17.00 - 18.00 น. จะมีกลุ่มมวลชนจากพื้นที่ต่างๆ จะเดินทางมาเข้าร่วมชุมนุม บริเวณอนุสาวรย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง โดยมีสมาชิกสภากรุงเทพฯ และสมาชิกสภาเขต นำขบวนเข้ามา ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประสานงานกลุ่มแกนนำ หากมีการนำรถบัส รับ-ส่ง มวลชนเข้ามาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เตรียมจัดพื้นที่ที่จอดรถให้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการจราจร"
ทั้งนี้ ได้มีการวางมาตราการเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการฉุกเฉินไว้ 3 วงรอบ โดยพื้นที่รอบในสุด ใจกลางกรุงเทพมหานคร ให้กองบังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.02 เป็นศูนย์กลาง พร้อมทั้งให้ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ลงพื้นที่เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ รอง ผกก.จร. และ สว.จร. ประจำพื้นที่สำคัญ
สำหรับในสถานการณ์ฉุกเฉินรอบที่สอง คือ ในพื้นที่ปริมณฑล 5 จังหวัด ให้รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เป็นผู้บัญชาการเหตุกาณ์
ส่วนรอบนอก มอบหมายให้กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยศูนย์วิทยุ "ศรีอยุธยา" รับผิดชอบร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค
ด้านพล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุม ล่าสุดว่า เมื่อเวลา 12.34 น. กลุ่ม V For Thailand หรือ กลุ่มหน้ากากขาว ได้รวมตัวกัน จัดกิจกรรมเป่านกหวีด ขับไล่รัฐบาล บริเวณแยกราชประสงค์ พร้อมกำหนดเคลื่อนไปยังถนนราชดำเนิน และในเวลา 15.00 น.