โดยทั้ง 2 แนวทาง ได้ฝากถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ไปหารือ รวมถึงเรียกปลัด กทม.มารับทราบ โดยไม่มีการกดดันหรือขีดเส้นใต้ว่าจะต้องออกจากพื้นที่เมื่อใด แต่ให้ กทม.ไปพิจารณา
รมว.มหาดไทย ย้ำว่า รัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรง และจะไม่เป็นต้นเหตุนำไปสู่สถานการณ์บานปลาย อีกทั้งส่วนตัวจะไม่ไปพูดคุยกับแกนนำโดยตรง เพราะเกรงการเป่านกหวีดไล่ และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นำงานราชพิธีมาเป็นข้ออ้างในการขอให้ยุติการชุมนุม
พร้อมระบุว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ไม่ได้เป็นไปตามที่แกนนำบนเวทีพยายามปลุกระดมให้ข้อมูลมวลชนว่ารัฐบาลไม่จงรักภักดี และเห็นว่าเป็นเรื่องเก่า โดยรัฐบาลมีความห่วงใยและไม่อยากให้แกนนำนำประเด็นนี้มาเป็นข้ออ้างในการล้มรัฐบาล
สำหรับกรณีการเป่านกหวีดไล่บุคคลในรัฐบาลนั้น ที่ประชุมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยได้กำชับมายังตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า นับจากนี้หากมีหน่วยงาน องค์กร หรือเจ้าภาพงานต่างๆ เชิญรัฐมนตรี หรือบุคคลสำคัญในรัฐบาลไปร่วมงาน ต้องรับผิดชอบในการดูแลไม่ให้เกิดการเป่านกหวีดไล่ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
นายจารุพงษ์ ระบุว่า การประกาศยกระดับการชุมนุมด้วยการระดมพล 1 ล้านคนล้มรัฐบาลนั้น รัฐบาลไม่ได้ประมาท และไม่ได้ท้าทายกลุ่มผู้ชุมนุม แต่เห็นว่าประชาชนกว่า 14 ล้านเสียง ให้การสนับสนุนรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้นขอให้พรรคประชาธิปัตย์ ควรรอการเลือกตั้งครั้งหน้า
นอกจากนี้ยังแนะนำให้พรรคประชาธิปัตย์ใช้เวทีสภา โดยเฉพาะเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนมีข้อมูลและพร้อมจะตอบประเด็นการอภิปรายอย่างละเอียด และจะตอบโต้ทุกประเด็น พร้อมจะเปิดโปงถึงผลการดำเนินงานของพรรคประชาธิปัตย์ตอนเป็นรัฐบาลที่ดำเนินงานอย่างผิดพลาดหลายโครงการเช่นกัน
รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุม เตรียมการจัดครม.สัญจร ที่จ.สงขลา ในปลายเดือนนี้ ซึ่งยอมรับว่า หากการลงพื้นที่แล้วเสี่ยงต่อการปะทะและเกิดเหตุรุนแรงก็มีความจำเป็นที่ต้องงดการประชุมไปก่อน แต่ตอนนี้ยังยืนยันจะจัดประชุมในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและฝ่ายความมั่นคงไปประเมินสถานการณ์
นายจารุพงษ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังระบุว่า วันพรุ่งนี้(19 พ.ย.)จะประชุมพรรคเพื่อไทย และจะประเมินถึงการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ใน 8 เขต หลังจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลาออกมาเป็นแกนนำผู้ชุมนุม โดยส่วนตัวมองว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นพรรคจะต้องประเมินสถานการณ์ว่าหากส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง และมีการเผชิญหน้าอย่างมาก ทั้งการปราศัยโจมตีการ เป่านกหวีดไล่ ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ดี และขณะนี้พรรคเพื่อไทยพอใจในจำนวนที่นั่ง ส.ส.ที่มีอยู่ โดยการประเมินอาจจะส่งหรือไม่ส่งตัวผู้สมัครทั้ง 8 เขต
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังระบุว่า ทางพรรคได้เตรียมทางออกสำหรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ สว.ไว้ถึง 3 แนวทาง คือ เป็นบวก เป็นลบ หรือกลางๆ โดยทุกแนวทางมีการเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้