นปช.ขอให้ประชาชนคนเสื้อแดงทั้ง กทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมการชุมนุมพร้อมกันในวัน และเวลาดังกล่าว เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชน ดังนั้น สมาชิกรัฐสภาในฐานะตัวแทนของประชาชนที่มาจากการเลือกตั้งมีอำนาจอันชอบธรรมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น นปช.มองว่าไม่มีอำนาจวินิจฉัยเกินขอบเขตที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นการทำลายหลักการของระบอบประชาธิปไตย
“พรรคประชาธิปัตย์บอกว่าวันที่ 24 พ.ย.นี้จะปฏิวัติประเทศไทย ระดมมวลชนกว่าล้านคน ดังนั้นวันที่ 19-20 พ.ย.นี้ ให้พวกเราออกมาแสดงตัวว่าเรามีคนที่รักประชาธิปไตย รักชาติมากแค่ไหน ไม่ต้องเกรงใจฝ่ายประชาธิปัตย์ ของเรามีเท่าไรเอาออกกันมาให้มากที่สุด" นางธิดา กล่าว
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ไม่ว่าคำวินิจฉัยออกมาทางใดคนเสื้อแดงจะร่วมฝ่าฟันวิกฤตและอุปสรรคไปร่วมกัน กำหนดการขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่บอกพี่น้องเสื้อแดงได้เลยว่าออกจากบ้านมาแล้ว อย่ากำหนดวันกลับก่อนจะดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนชุมนุมโดยสงบ โดยไม่มีการกดดันหรือเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม เพราะเป็นการมาทวงถามความยุติธรรม และต้องการออกมาแสดงจุดยืนว่าหากมีบางฝ่ายประสงค์ต้องการให้เกิดรัฐบาลนอกระบบไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด คนเสื้อแดงไม่สามารถยอมรับได้แน่นอน
นายนิสิต สินธุไพร แกนนำ นปช.ระบุว่า หลังจากที่ได้ประสานงานทางแกนนำคนเสื้อแดงภาคเหนือและภาคอีสาน ขณะนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าจะมีคนเสื้อแดงมาร่วมการชุมนุมไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน ขณะนี้ต้องรอดูท่าทีว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร แต่หากวินิจฉัยออกมาไม่ชอบธรรมได้ประสานงานแล้วว่าคนเสื้อแดง 1 แสนกลุ่มแรกจะเป็นกำลังหลักในการชุมนุมอาจยืดเยื้อยาว 1 สัปดาห์หรือ 10 วัน หลังจากนั้นคนเสื้อแดงก้อนที่ 2 อีก 1 แสนคนจะเตรียมกำลังไว้เพื่อสลับสับเปลี่ยนการชุมนุมกับคนเสื้อแดงกลุ่มแรก โดยการต่อสู้ครั้งนี้อบยากให้มวลชนออกมาเป็นจำนวนมากเหมือนกับการชุมนุมเมื่อปี 53