นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงสถานการณ์การ
ชุมนุมว่า สิ่งที่แกนนำกลุ่มต่อต้านรัฐบาลต้องการไม่ใช่ทางออกที่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อีกทั้งข้อเรียกร้องต่างๆ ภายใต้การนำของพรรคการเมืองนั้น ก็มีลักษณะเชื่อมโยงกันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยและหวังผลประโยชน์ทางการเมือง โดยจะเห็นได้จากช่วงแรกๆ เป็นการ
ชุมนุมเพื่อคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และทางพรรคเพื่อไทยและส.ส.ได้ยินยอมที่จะถอยและจะไม่นำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเสนอกลับเข้าสู่สภาอีก แต่การ
ชุมนุมยังไม่ยุติกลับมีเงื่อนไขเพิ่มขึ้น เช่น การล้มล้างระบอบทักษิณและการปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งเงื่อนไขนี้ไม่ได้เป็นเงื่อนไขใหม่แต่อย่างใด เป็นเงื่อนไขเดียวกับสมัยที่มีการ
ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ช่วงก่อนปี 2549 ที่จะเกิดการปฏิวัติแต่ได้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง
อีกทั้งการที่ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์หลายคนลาออกจากการเป็น ส.ส.แล้วมาเป็นแกนนำม็อบ แค่ไม่ต้องการให้มีผลความผิดตกไปถึงพรรคเท่านั้น พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งข้อสังเกตผู้นำดาวกระจาย 13 เส้นทางว่า นำโดยนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์แทบทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องการปิดโรงเรียน เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการแต่ละโรงเรียนดูแลปัญหา โดยคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนเป็นสำคัญ ซึ่งถ้าหากเห็นว่าอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยแก่นักเรียนก็สามารถปิดการเรียนการสอนเพิ่มเติมได้ ซึ่งในวันนี้อาจจะมีอีกหลายโรงเรียนที่ต้องปิดการเรียนการสอนเพิ่ม
อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/นิศารัตน์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--