สำหรับการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณเมื่อวานนี้ประเมินยอดผู้ชุมนุมเข้ามาร่วมไม่ถึง 1 ล้านคนตามที่มีการกล่าวอ้าง โดยจากการประเมินอยู่ที่ 120,000 คนเท่านั้น น่าจะเป็นคนในกรุงเทพร้อยละ 30 และมาจากต่างจังหวัดร้อยละ 70
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขณะการชุมนุมครั้งนี้มีหลายประเทศจับตามอง ล่าสุดมีรายงานจาก 12 ประเทศเตือนประชาชนไม่ให้เดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบในภาพรวมต่อการท่องเที่ยวย ดังนั้นจึงขอให้ยุติการชุมนุมเพื่อไม่กระทบต่อการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันพรุ่งนี้ตนเองไม่ได้รับมอบหมายให้ช่วยชี้แจง แต่เชื่อว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปยื่นเอาผิดกับนายสุเทพ และแกนนำคนอื่น ๆ ในข้อหากบฏ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองปราบปราม พร้อมหลักฐานที่ได้รวบรวมเกือบครบถ้วนแล้ว
กรณีที่แกนนำผู้ชุมนุมอ้างว่ามีประชาชนมาชุมนุมในวันที่ 24-25 พ.ย.ถึงล้านคนนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สื่อต่างประเทศ รวมทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคงรายงานว่าผู้ชุมนุมมีจำนวนเพียงหลักแสนเท่านั้น ไม่ถึงล้านคนตามที่นายสุเทพระบุตัวเลขเพื่อกดดันรัฐบาล แต่ไม่ว่าผู้ชุมนุมจะมีจำนวนเท่าไหร่นั้น รัฐบาลก็จะให้การดูแล เพียงขอให้ชุมนุมในกรอบของกฎหมาย และไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ยืนยันว่าวันนี้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่จะใช้ความหนักแน่นและพยายามอดทนต่อการยั่วยุ
อย่างไรก็ตาม เรื่องตัวเลขไม่ใช่ปัญหาสำคัญเท่ากับหลักคิด ซึ่งเห็นว่าขอข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมนั้นเป็นลักษณะสุดโต่ง แต่เมื่อตัวเลขไม่ได้เป็นไปตามที่คาดนายสุเทพและเครือข่ายก็ควรหยุดเคลื่อนไหวหรือยุติการชุมนุม ไม่ไช่เดินขบวนสร้างกระแสกดดันทั้ง 4 เหล่าทัพและหน่วยงานรัฐต่างๆ เพื่อปลุกระดมให้ข้าราชการหยุดงาน ถือเป็นการล้มรัฐบาลด้วยวิธีที่ไม่มีในรัฐธรรมนูญ อาจเขาข่ายความผิดข้อหากบฏด้วยเช่นกัน