ฝ่ายค้านจวกนายกฯ ปูนบำเน็จพวกพ้อง โยง"ทักษิณ"บงการ/นายกฯโต้กลับข้อหาคอร์รัปชั่น

ข่าวการเมือง Tuesday November 26, 2013 18:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยในช่วงบ่าย ฝ่ายค้านมุ่งอภิปรายไปที่นายกรัฐมนตรีในประเด็นการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องและครอบครัว โดยนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ระบุวา นายกรัฐมนตรีตั้งพวกพ้องเป็นรัฐมนตรี ถือเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ที่อดีตเคยทำงานในกลุ่ม บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น(SHIN)

รวมทั้ง นายชัยเกษม นิติศิริ อดีตอัยการสูงสุด ที่เคยมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตามความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลัง ซึ่งเคยมีส่วนในการช่วยเหลือการขายหุ้น SHIN กว่า 7.3 หมื่นล้านบาทโดยไม่ต้องเสียภาษี

ส่วนการอภิปรายของนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง มีเนื้อหาพาดพิงเชื่อมโยงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีอำนาจสั่งการในรัฐบาล รวมถึงการประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญของบุคคลในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ทำให้เกิดการประท้วงบานปลาย ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะ และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เพื่อไทย พาดพิงไปถึงการชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำ ทำให้ประธานในที่ประชุมต้องเชิญนายพิเชษฐ์ออกจากห้องประชุมหลังตักเตือนไปแล้วถึง 2 ครั้งเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบานปลาย

จากนั้นรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่างทยอยลุกขึ้นชี้แจงทั้งนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ต่างยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เคยสไกป์เพื่อแสดงความเห็นหรือสั่งการเข้ามายังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและที่ประชุมพรรคเพื่อไทย แต่ที่ทำให้เกิดการประท้วงมากที่สุด คือการชี้แจงของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ที่ระบุว่ามีความมั่นใจว่านายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่อย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหา ซึ่งฝ่ายค้านพยายามลุกขึ้นประท้วงอยู่ตลอดในช่วงที่นายณัฐวุฒิได้ลุกขึ้นชี้แจง

ต่อมานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงยืนยันว่าการพิจารณาคัดเลือกรัฐมนตรี เป็นไปจากคุณสมบัติและจากความรู้ ความสามารถ และมีการกำกับการทำงานให้เป็นไปตามที่แถลงไว้กับรัฐสภา พร้อมยืนยันตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว มีอิสระในการทำงานและการ ตัดสินใจ และมีคณะรัฐมนตรีเพียงคณะเดียวมาตลอด 2 ปี ที่บริหารงาน อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีว่าที่ผ่านมามีปัญหาเกิดขึ้นหลายเรื่องจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการตั้งที่ปรึกษาขึ้นมา

“ส่วนที่กล่าวหาว่าดิฉันขาดความรู้สติปัญญา หรือที่กล่าวหาว่าดิฉันโง่ คงไม่ขอตอบประเด็นนี้ เพราะยากที่จะอธิบาย อธิบายไปก็คงไม่มีใครเชื่อ เพราะยังไม่เคยร่วมงานกันอย่างจริงจัง แต่ข้าราชการและคนที่ทำงานร่วมกันมาจะรู้ดี ว่าดิฉันเน้นผลงานและการทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน"นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายให้เอื้อทุจริตคอรัปชั่น โดยได้มีการติดตามตรวจสอบโครงการต่างๆ อาทิ คดีความผิดเกี่ยวกับการทุจริตการสร้างสถานีตำรวจทดแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 396 แห่งทั่วประเทศ คดีบุกรุกที่ดินเขาแพง และการจัดซื้อจัดจ้างคุรุภัณฑ์ของอาชีวะ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังตอบโต้กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านที่ระบุว่าคณะรัฐมนตรีมีมติแก้ไขคุณสมบัติคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพิ่มเติมให้บุคคลที่เคยรับโทษ หรือรอลงอาญา สามารถรับตำแหน่งได้นั้น เรื่องดังกล่าวรัฐบาลรับเรื่องต่อมาจากสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยขณะนี้เรื่องดังกล่าวได้ให้คณะกฤษฎีกาศึกษาอยู่ ทั้งนี้มีการร้องเรียนจากสหพันธ์รัฐวิสาหกิจ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวให้เกิดความเท่า เทียมกัน และผ่อนปรนกฎกติกา เนื่องจากมีความแตกต่างระหว่างกฎของรัฐวิสาหกิจ กับข้าราชการพลเรือน ส่งผลต่อความคล่องตัวในการทำงาน

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่าได้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)เดินหน้าปราบปรามการทุจริต โดยมีมติ ครม.ให้เร่งรัดทุกหน่วยงานให้ทำตาม ปปช. และยังให้มีการเปิดเผยราคากลาง และการคำนวนราคากลางต่อสภาด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ