สำหรับกรณีที่มีรัฐมนตรีบางรายขึ้นเวทีปราศรัยนั้น จะเห็นได้ว่า มีนักการเมืองเข้าร่วมเวทีทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนรัฐบาล แต่เชื่อว่าผู้มีตำแหน่งทางการเมืองจะทราบลิมิตของตนเอง
"ขอเรียนประชาชนว่า รัฐบาลยอมถูกมองว่ารัฐบาลอ่อนแอไม่ใช้กำลังจนถูกผู้ชุมนุมบุกรุก ดีกว่ากำหนดเดดไลน์แล้วใช้กำลังเข้ายึดพื้นที่ ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บปวด ในส่วนของ พ.ร.บ. ความมั่นคง ศอ.รส. มีอำนาจในการขอกำลังของกองทัพมาช่วย แต่ขณะนี้จะเน้นการบริหารจัดการกำลังมากกว่า โดยคิดว่าการดูแลโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเพียงพอ
ส่วนผู้ชุมนุมต้องการเห็นสภาประชาชน คงต้องติดตามว่าจะเกิดขึ้นด้วยวิธีไหน เพราะต้องตรากฎหมายซึ่งต้องใช้เวลา แต่ยืนยันว่าเราไม่มีทิฐิใดๆ เรารักประเทศเหมือนคนไทย และเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักประเทศ แต่ทุกอย่างก็ต้องคำนึงถึงความต้องการของคนหมู่มากด้วย อะไรที่เป็นประโยชน์ของคนหมู่มาก ดิฉันยินดี การที่เราออกมาทำงานในวันนี้ ความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีก็ต้องประคองสถานการณ์ต่างเพื่อให้สถานการร์ต่างๆ เดินไปด้วย วันนี้เราควรเสนอทางออกของประเทศไทยทุกภาคส่วน เปิดเวทีพูดคุยกันว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร และเดือนหน้าเป็นเดือนมหามงคล หวังว่าในวันที่ 5 ธันวาคม จะเห็นภาพคนไทยทุกคนร่วมใจพร้อมใจกัน"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมพูดคุยเพื่อให้บ้านเมืองสงบลงได้ และไม่จำกัดว่าใครเป็นเจ้าภาพที่จะริเริ่มเวทีขึ้นมา โดยไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาล แต่ผู้ที่เข้ามาพูดคุยควรมาจากทุกกลุ่มจริงๆ และต้องกลับไปถามประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ด้วยว่าต้องการอะไร
"ส่วนการที่มีข่าวว่าจะไปรัสเซียนั้น ยืนยันว่าวันนี้ยังอยู่ที่นี่ ไม่หนีไปไหน และถึงแม้จะเป้นผู้หญิงก็กล้าที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ"นายกรัฐมนตรี กล่าว