ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้แกนนำผู้ชุมนุมและผู้ชุมนุมให้ยุติการยึดอาคารและสถานที่ราชการ และยุติการใช้ความรุนแรงทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเห็นว่าการดำเนินการของนายสุเทพและพวกเป็นการกระทำเพื่อล้มล้างอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อให้ตนเองและพวกได้มาซึ่งอำนาจโดยที่ประชาชนไม่ได้เลือกตั้งและเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญา ฐานก่อกบฏที่มีโทษถึงประหารชีวิต อีกทั้งการกระทำดังกล่าวเป็นการข่มขืนใจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงใดๆนอกบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
"พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองนั้นต้องกระทำโดยการพูดคุยหาทางออกระหว่างฝ่ายต่างๆ โดยสันติวิธี นอกจากฝ่ายที่มีความเห็นขัดแย้งกันแล้ว ยังต้องรับฟังความเห็นของคนไทยผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ทั้งประเทศเพื่อหาทางออกให้กับประเทศร่วมกันอีกด้วย"แถลงการณ์ ระบุ
การที่นายสุเทพกล่าวหาว่ารัฐบาลขาดความชอบธรรม เพราะไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญนั้น พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยประเด็นที่มาของ ส.ว.ในวันที่ 20 พ.ย.56 เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่จะรับคดีไว้พิจารณาและวินิจฉัยเช่นนั้น ซึ่งเป็นการประกาศว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับและพิจารณาคดีนี้เป็นการเฉพาะเจาะจง และมิใช่เป็นการประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลอื่นเป็นการทั่วไป
พรรคเพื่อไทยเห็นว่าคนไทยทุกคนมีสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ แต่การยึดสถานที่ราชการ ก่อการจลาจล ยึดสถานีโทรทัศน์ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยึดทำเนียบรัฐบาล มิใช่การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ แต่เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ และทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น นายสุเทพจึงไม่มีความชอบธรรมใดๆเลยที่จะกล่าวอ้างว่าการกระทำของตนและพวกเป็นการใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ในทางตรงข้ามศาลได้ออกหมายจับนายสุเทพไปแล้วจากการละเมิดกฎหมายบ้านเมือง
ส่วนกรณีที่นายสุเทพสั่งให้ข้าราชการหยุดงานในวันที่ 2 ธ.ค.นั้น การกระทำของนายสุเทพเป็นคำสั่งที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ข้าราชการไม่ต้องปฏิบัติตาม เพราะนายสุเทพไม่มีอำนาจใดๆ ตามกฎหมาย อีกทั้งเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาฐานฆ่าคนตายและคดีอุกฉกรรจ์อื่นๆ จากการกระทำในครั้งนี้
และ การที่นายสุเทพไปพบนายกรัฐมนตรีต่อหน้าผู้นำเหล่าทัพนั้นแสดงให้เห็นว่านายกฯ ประสงค์ที่จะแก้ปัญหาโดยการพูดคุยกันอย่างสันติวิธี และขอให้นายสุเทพหยุดทำร้ายประเทศไทย การพูดคุยกันมิได้เปลี่ยนแปลงสถานะนายสุเทพจากผู้ต้องหาคดีอาญาที่ต้องการล้มล้างรัฐบาลแต่อย่างใด แต่เป็นที่ชัดเจนต่อมาว่านายสุเทพ ยังประสงค์ที่เดินหน้ากระทำความผิดอาญาโดยการใช้กำลังล้มรัฐบาลต่อไป
พรรคเพื่อไทยขอสนับสนุนแนวทางการทำงานของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม เพื่อพิทักษ์กฎหมายและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มั่นคงสืบไป