ทั้งนี้ สถานการณ์ก่อนหน้านี้ผู้ชุมนุมต้านระบอบทักษิณนำรถเทรเลอร์จากผู้บริจาค พร้อมด้วยมวลชนอีกจำนวนหนึ่งเดินทางไปสมทบผู้ชุมนมที่หน้า บช.น.ทำให้สามารถฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ไปได้ 4 ชั้นแล้ว ซึ่งเหลือแนวกั้นเพียง 1 ชั้นก็จะประชิดหน้า บช.น.ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์บริเวณแยก พล.1 หน้า บช.น.ตึงเครียดอีกครั้งเมื่อผู้ชุมนุมพยายามใช้รถแบ็คโฮรื้อแท่งแบริเออร์ฝ่าแนวเข้ามา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตายิงสกัดกั้นการกระทำของผู้ชุมนุม แต่ผุ้ชุมนุมได้เปิดพัดลมขนาดใหญ่เป่าไล่ควันแก๊สน้ำตาพัดกลับไปยังแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งแม้จะมีหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนต้องวิ่งเข้ามาหลบในอาคาร บช.น. และไม่สามารถขว้างแก๊สน้ำตาไปถึงแนวผู้ชุมนุมได้ เนื่องจากติดตาข่ายสแลนความสูง 3 เมตรที่ผู้ชุมนุมนำมาใช้กั้นไว้ ทำให้ต้องใช้การยิงแก๊สน้ำตาแบบวิถีโค้ง ขณะที่ฝั่งผู้ชุมนุมใช้รถฉีดน้ำตอบโต้เจ้าหน้าที่เป็นระยะ
ขณะที่ด้านสะพานชมัยมรุเชฐ ผู้ชุมนุมบุกเข้ารื้อทำลายจนเหลือแนวกั้นเพียงชั้นเดียว แต่เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังไว้ทุกด้าน และระดมยิงแก๊สน้ำตาตลอดเวลา แต่กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณดังกล่าวได้ถอยกลับไปตั้งหลักที่ราชดำเนิน เนื่องจากได้รับการแจ้งประสานจากแกนนำว่ากำลังจะมีข่าวดีในค่ำวันนี้ พร้อมประกาศเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมให้ล่าถอยออกไป ส่วนบริเวณศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ มีเสียงดังคล้ายประทัดยักษ์หลายครั้งสร้างความตื่นตระหนกให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม