ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ให้การสนับสนุนหรือร่วมมือถือว่าผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 114 ดังนั้นตนจึงเร่งกำชับให้ตำรวจเร่งออกหมายจับ โดยเริ่มจากผู้บริหารช่องบลูสกายก่อน อย่างไรก็ดี การดำเนินการเช่นนี้เชื่อว่าไม่ใช่การเติมเชื้อไฟให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น เพราะรัฐบาลไม่ได้สั่งให้ปิดสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว เพียงแต่เป็นการแจ้งความและออกหมายศาลไว้ก่อน เมื่อทุกอย่างจบสิ้น ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย
นอกจากนี้ในส่วนของ กทม.ที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ก็ถือว่ามีความผิดตาม มาตรา 114 เช่นกัน เช่น การสนับสนุนรถสุขาเคลื่อนที่ การสนับสนุนรถน้ำ ดังนั้นเรื่องนี้ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมายเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการทำงานแบบบูรณาการขึ้นมา 4 คณะ คือ 1.คณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์ ทำแผนและฝ่ายประสานงาน มีตนเป็นประธาน, 2.คณะกรรมการด้านกฎหมาย มีนายชัยเกษมา นิติศิริ รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน, 3.คณะกรรมการด้านดูแลประชาชน มีนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นประธาน และ 4.คณะกรรมการด้านข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ มี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เป็นประธาน โดยมีข้อสรุปว่าการดำเนินการของฝ่ายปฏิบัติให้ยึดตามกฎหมายเป็นหลัก
นายสุรพงษ์ เรียกร้องให้ยุติการชุมนุม เพราะสังคมส่วนใหญ่ไม่ต้องการเห็นความวุ่นวาย โดยเฉพาะพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานในวันนี้ จึงอยากให้บ้านเมืองสงบสุขและอยู่กันด้วยเหตุผล นอกจากนี้ ได้แสดงความห่วงใยที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะกลับมาชุมนุมอีกในวันพรุ่งนี้(6 ธ.ค.) เพราะจากการข่าวประเมินว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางเข้ามาชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยจะพยายามให้เกิดเหตุรุนแรงแล้วโยนความผิดให้กับรัฐบาล ดังนั้นจึงได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือทั้งด้านกำลังตำรวจที่ประจำตามจุด อีกทั้งยังมอบให้กระทรวงไอซีที เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงงานพระราชพิธี