ทั้งนี้ได้นัดหมายเวลาพร้อมกันที่ 09.39 น. โดยขอให้ประชาชนที่มีใจรักชาติออกมาเดินขบวนพร้อมกันบนถนนเพื่อมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ประชาชนในต่างจังหวัดก็ขอให้ออกมาเดินมุ่งหน้าไปยังศาลากลางจังหวัด โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ขอเพียงวันเดียวเพื่อพิสูจน์อนาคตของประเทศไทยว่าคนไทยจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
"วันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. เวลา 9.39 น. ให้ลุกขึ้นมาพร้อมกัน ทวงคืนอำนาจ ลุกฮือกันพร้อมกันทั่วประเทศ คนต่างจังหวัดลุกฮือมุ่งหน้าไปที่ศาลากลางทุกแห่ง ปิดทางเข้าไม่ให้ทำงานกันต่อไป...สำหรับพี่น้อง กทม.รักชาติรักประเทศ ต้องออกมาบนถนน ใครนอนบ้านทรยศต่อประเทศไทย เดินไปบนถนนทุกสาย เดินขบวนพร้อมกัน ออกมาทุกคน มุ่งหน้าไปทำเนียบรัฐบาล เอาอำนาจเราคืนมาจากระบอบทักษิณ" นายสุเทพ กล่าวบนเวทีปราศรัยที่ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ในคืนนี้
เลขาธิการ กปปส.กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องให้การชุมนุมจบในวันที่ 9 ธ.ค. เพราะไม่ต้องการให้ยืดเยื้ออีกต่อไป และไม่ต้องการเห็นประชาชนเจอกับเหตุปะทะจนนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตอีก พร้อมเรียกร้องให้ข้าราชการต้องเลือกข้างว่าจะอยู่ข้างประชาชนหรืออยู่ข้างรัฐบาล แต่หากในครั้งนี้ข้าราชการไม่ยอมเลือกข้าง และประชาชนไม่ยอมออกมา ตนและบรรดาแกนนำก็พร้อมจะไปมอบตัวและยอมถูกจำคุกในข้อหากบฎ
"ผมขอประกาศ นี่คือการเป่านกหวีดครั้งสุดท้ายกับประชาชน ถ้าข้าราชการทั้งหลายไม่เลือกข้าง พวกผมยอม ถ้าประชาชนไม่ออกมา ผมจะเดินไปติดคุก...คืนวันอาทิตย์ทุบหม้อข้าวเลย เช้าวันจันทร์ ผมจะเดินนำหน้าพี่น้องไปทำเนียบรัฐบาล และไม่กลับมาที่นี่อีก ไปตัดสินผลแพ้ชนะ แต่จะไม่เข้าไปทำเนียบฯ จะขอดูใจทหาร"นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ทั้งรัฐสภาและรัฐบาลได้ทำความผิดต่อรัฐธรรมนูญ ถือว่าหมดสภาพตามที่รัฐธรรมนูญรับรอง ดังนั้นเมื่ออำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย และประเทศไม่มีรัฐบาลและรัฐสภาแล้ว ก็มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาตรา 7 ซึ่งตามประเพณี เมื่ออำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ประชาชนจึงมีอำนาจแต่งตั้งคนมาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติและรัฐบาลได้ ดังนั้นประชาชนจึงมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะดำเนินการตามกฎกติกาให้สอดคล้องกับการปกครอง
เลขาธิการ กปปส.ยังขอให้ประชาชนเข้าใจว่านี่ไม่ใช่การปฏิวัติประชาชน ไม่ใช่ยึดอำนาจ หรือการฉีกรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการลุกขึ้นทวงอำนาจของประชาชนจากรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม