ทั้งนี้ การเพิกเฉยต่อคำสั่งดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ผบ.ตร.กำลังสมรู้ร่วมคิดทำตัวเป็นบริวารและค้ำจุนระบอบทักษิณ ซึ่งในวันนี้ประชาชนไม่มีความไว้วางใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ อีกทั้งการยังคงกำลังตำรวจไว้ตามสถานที่ต่างๆ นั้น เป็นการชี้ให้เห็นว่าเป็นการใช้อำนาจคุกคามประชาชน
"ตอนนี้ก็ยังเหลือแต่ตำรวจที่ยังทำหน้าที่ชัดเจนในการค้ำจุนระบอบทักษิณ ถ้า ผบ.ตร.ไม่ถอนกำลังตามที่ กปปส.บอก กปปส.จะมีมาตรการกดดัน ผบ.ตร. และ สตช. ซึ่งเราจะนัดประชุมกันในเวลา 11.30 น. เพื่อกำหนดทิศทางและมาตรการกดดัน และจะมีการออกแถลงการณ์ให้ทราบต่อไป" โฆษก กปปส. กล่าว
อนึ่ง เมื่อวานนี้(10 ธ.ค.) กปปส.ได้มีคำสั่งฉบับที่ 2 ที่ระบุว่า 1.ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในความผิดฐานกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 เนื่องจากกระทำการล้มล้าง หรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ และอำนาจตุลาการ ถือเป็นความผิดอาญาร้ายแรง จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
2.ให้ผบ.ตร.สั่งให้ตำรวจทุกหน่วยถอนกำลังกลับไปที่ตั้ง และปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและทรัพย์สินของประชาชน โดยให้ออกคำสั่งภายใน 12 ชั่วโมง นับตั้งแต่มีคำสั่งนี้
3.กปปส.เห็นว่า ทหารเป็นหน่วยงานที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุด ขอให้ทหารรักษาสถานที่ราชการเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยต่อไป
4.ขอให้มวลมหาประชาชนติดตามพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของคนในตระกูลชินวัตร และบุคคลในคณะรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด และให้แสดงออกต่อกลุ่มบุคคลดังกล่วในแนวทางสันติอหิงสา เพื่อให้หยุดการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และเจตจำนงของมวลมหาประชาชน