ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า กรณีหมายจับของนายสุเทพ มีการโอนมาไว้ที่ดีเอสไอทั้งหมด เพราะจะมีการยกระดับเป็นคดีพิเศษเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการสอบสวนและการดำเนินการ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังดำเนินคดีตามปกติต่อไปด้วย สำหรับผู้ที่กระทำความผิดร่วมนายสุเทพ เบื้องต้นมี 20 ราย เป็นตัวการร่วม ผู้สนับสนุน ดังนั้น จึงขอเตือนนักวิชาการที่ขึ้นเวที กปปส.ให้ระมัดระวัง อย่าทำผิดโดยเจตนา
และเบื้องต้นมอบหมายให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ (ระดับ 9) ดีเอสไอ รับผิดชอบดำเนินการ และในช่วงเวลา 13.00 น.นี้ ทางทีมของดีเอสไอจะประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งทราบว่าเบื้องต้นมีคดีทั้งหมด 40 คดี เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ ก็จะได้มีการรวบรวมรายละเอียดของเรื่องทั้งหมดก่อนจะเสนอเข้าสู่การประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ ในวันที่ 17 ธ.ค.เวลา 14.00 น.
ส่วนกรณีที่นายสุเทพต้องไปพบพนักงานงานอัยการในวัน 12 ธ.ค.เพื่อนำตัวส่งฟ้องดำเนินคดีในเหตุการณ์สลายการชุมนุมในปี 53 นั้น นายธาริต กล่าวว่า ขอย้ำให้นายสุเทพไปตามที่นัดหมายไว้ด้วย แม้จะเป็นแกนนำผู้ชุมนุมก็ตาม
นอกจากนี้ นายธาริต กล่าวว่า การชุมนุมของ กปปส.ที่ศูนย์ราชการ ปรากฎว่าได้มีทรัพย์สินบางส่วนเสียหาย โดยมีร่องรอยงัดแงะ ตู้ และโต๊ะทำงาน ซึ่งมีโน้ตบุ๊คสูญหาย ซึ่งจะต้องประเมินราคาความเสียหาย ส่วนสำนวนคดีสำคัญๆ และอาวุธยุทธภัณฑ์ ทางเจ้าหน้าที่ได้ย้ายออกมาก่อนหน้านั้นแล้ว