นายไพบูลย์ กล่าวว่า ครั้งนั้นคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า เมื่อบทบัญญัติมาตรา 6 วรรคสี่ แห่ง พ.ร.บ.สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฯ ได้กำหนดให้การดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่มีเหตุให้มีการเลือกสมาชิก บทบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นเพียงบทเร่งรัดให้สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต้องดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเท่านั้น
"การเสนอพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ของคณะรัฐมนตรี เป็นการเสนอโดยไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง ซึ่งคณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามหลักนิติธรรม ดังนั้นหากไม่เป็นตามหลักนิติธรรมก็ย่อมต้องยกเลิกหรือเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปได้ แต่คณะรัฐมนตรีกลับอ้างเหตุที่จะไม่ดำเนินการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพื่อปกปิดเจตนาที่แท้จริงไว้" นายไพบูลย์ กล่าว