ทั้งนี้ ได้เรียกร้องไปยังประชาชนที่จะมาร่วมชุมนุม ในวันที่ 19-20 และ 22 ธ.ค.ว่าควรรับฟังเหตุผลจากทุกฝ่าย ไม่ควรหลงเชื่อเฉพาะคำยุยงเฉพาะของนายสุเทพ กับพวก ซึ่งจะซ้ำเติมปัญหาให้กับบ้านเมือง กระทบ สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และความเชื่อมั่นต่อนานาชาติ และที่สำคัญเมื่อมีการโปรดเกล้า พ.ร.ฏ.ยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 แล้ว ดังนั้นประชาชนทุกคนต้องแสดงสิทธิทางการเมือง โดยการไปลงคะแนนที่จะกำหนดอนาคตของประเทศผ่านการเลือกตั้ง เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ใช่มาชุมนุมเพื่อให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป หรือไล่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ซ้ำเติมปัญหามากกว่าการแก้ปัญหาให้บ้านเมือง
โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังได้ระบุถึงการกระทำของนายสุเทพ ไว้ดังนี้
1.นายสุเทพ อ้างการคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม แต่เบื้องหลังต้องการล้มล้างรัฐบาลมาแต่แรก เห็นได้จากเมื่อเงื่อนไขเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมยุติแล้ว นายสุเทพ กลับสร้างเงื่อนไขเพิ่มเป็นขับไล่รัฐบาลและสร้างภาพหลอกประชาชนเรื่องล้มระบอบทักษิณ ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นการอ้างบังหน้า ข้อเท็จจริงคือไม่มีระบบทักษิณ มีแต่ระบบประชาธิปไตย และต้องการล้มรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์เท่านั้น
2.นายสุเทพ อ้างว่าชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ แต่กลับนำประชาชนไปเที่ยวยึดสถานที่ราชการต่างๆ และบังคับข่มขู่ข้าราชการไม่ให้ทำงาน สร้างความเสียหายแก่ระบบราชการไปทั่ว
3.นายสุเทพ ประกาศจะตั้งสภาประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การปกครองประเทศทั้งที่มีรัฐธรรมนูญบังคับใช้อยู่ เป็นสิ่งที่ไม่อาจทำได้ เนื่องจากขณะนี้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายได้
4.เมื่อข้ออ้างเรื่องขับไล่ระบอบทักษิณและรัฐบาลเริ่มไม่ได้รับการตอบสนอง และนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา นายสุเทพ ก็เปลี่ยนเป็นเสนอปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งแทน ซึ่งการปฏิรูปตามแนวทางของนายสุเทพ จะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญและกฎหมายหลายฉบับเมื่อไม่มีสภาผู้แทนราษฎร แล้วจะดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวได้อย่างไร
5.รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันและกฎหมายเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนในการร่าง แต่เป็นผลพวงจากการรัฐประหาร หากนายสุเทพ เห็นว่ากติกาตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งไม่เป็นธรรม ทำไมจึงไม่ดำเนินการตั้งแต่ตอนที่ตนเองเป็นรัฐบาล แต่เพิ่งมานึกได้ตอนนี้
6.นายสุเทพ ประกาศจะล้มการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่านายสุเทพ ไม่เคารพเสียงประชาชนทั่วประเทศที่จะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของประเทศ