"พรรคต้องการหยุดภาวะการเมืองล้มเหลวนี้ พรรคจึงต้องหาทางออกที่แก้ปัญหาได้จริง เพราะประเทศไทยสูญเสียโอกาสมาอย่างต่อเนื่องทั้งการทุจริต นโยบายล้มเหลว ซึ่งเป็นการตัดโอกาสของประเทศที่จะพัฒนาให้ความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ พรรคมองว่าสภาพการเมืองที่ล้มเหลวต่อเนื่องนี้เป็นปัญหาที่รัฐบาลชุดปัจจุบันที่ยังทำหน้าที่รักษาการเป็นผู้ที่ทำให้เกิดวิกฤต ทั้งๆ ที่มีโอกาสจะนำพาบ้านเมืองออกจากสภาพการเมืองล้มเหลวโดยอาศัยเสียงสนับสนุนจากประชาชนในขณะนั้นแก้ปัญหาประชาชน แต่รัลบาลยิ่งลักษณ์กลับใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง มีการผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมล้างความผิดให้คนทุจริตคอร์รัปชั่นที่ถูกศาลตัดสินแล้ว และยังพยายามแก้ไขกติกาสูงสุดของประเทศ บิดเบือนโครงสร้างอำนาจ ต่างตอบแทนกับสมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่ง หวังครองอำนาจตลอดไปและใช้อำนาจกอบโกยผลประโยชน์ให้ตัวเอง แม้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วก็ยังไม่ยอมรับอำนาจศาล โดยคิดหาหนทางที่จะบรรลุเป้าหมายในการแก้ปัญหาให้ตนเองและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง
นายอภิสิทธิ๋ กล่าวว่า พรรคได้ทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มความสามารถ จนชะลอยับยั้งความเสียหายได้หลายอย่าง ซึ่งหากไม่มีฝ่ายค้านที่เข้มแข็งบ้านเมืองจะเสียหายมาก เช่น กฎหมายนิรโทษกรรมอาจผ่านไปแล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว.และการกู้เงินให้คนไทยเป็นหนี้50ปีอาจจะผ่านไปแล้ว แต่วิกฤตศรัทธาที่รัฐบาลก่อขึ้นลุกลามไปเป็นวิกฤตศรัทธาพรรคการเมืองโดยรวม การเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่สามารถให้คำตอบหรือปฏิรูปประเทศให้หลุดพ้นวงจรนี้ และไม่อาจทำให้ประชาชนกลับมาศรัทธาระบบพรรคการเมืองและการเลือกตั้งได้
"พรรคต้องการให้โอกาสกอบกู้ศรัทธาประชาชนต่อพรรคการเมืองในระบบรัฐสภา บ้านเมืองมาถึงวันนี้เพราะรัฐบาลทรยศต่อความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ อย่าให้ฝ่ายค้านต้องทำเหมือนรัฐบาลเลย หลังปฏิรูปต้องมีสภา ต้องมีพรรคการเมือง ขอให้มีพรรคการเมืองสักพรรคหนึ่งที่พร้อมทำเพื่อประเทศชาติไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง เห็นแก่ความเปลี่ยนแปลงมากกว่าการช่วงชิงอำนาจ หลอมรวมให้พรรคการเมืองเป็นหนึ่งเดียวกับประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศ ผมขออภัยพี่น้องประชาชนที่ตั้งใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่ได้คิดว่าจะแพ้หรือเป็นฝ่ายค้านแต่เชื่อว่าในสถานการณ์ปกติพรรคจะได้คะแนนมากที่สุดตั้งแต่ตั้งพรรค และจะมีโอกาสเป็นรัฐบาลแต่จะมีการจัดตั้งมวลชนมาขัดขวางทำให้เกิดปัญหาเดิม หรือหากประชาธิปัตย์แพ้ก็พิสูจน์แล้วว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มความสามารถด้วยความเต็มใจ เราไม่ใช่พรรคการเมืองที่เห็นคุณค่าความเป็นพรรคการเมืองเพื่อก้าวสู่ผลประโยชน์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยไม่ต้องคิดถึงพวกผมในสภาเพราะในวันที่เราอยู่ในสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไม่มาสภา ถึงเวลานักการเมืองส่องกระจกตัวเอง กลับมากอบกู้ศรัทธา พวกผมเลือกเส้นทางที่ยากและยาวในการที่จะเป็นตัวแทนประชาชนขอให้ประชาชนร่วมเดินกับพรรค จะเกิดการปฏิรูปที่ยั่งยืนทำให้ศรัทธากลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยอีกครั้งอย่างยั่งยืน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว