7 องค์กรเอกชนร่วมหารือในเวทีร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ได้เกิดความขัดแย้งรุนแรงอย่างต่อเนื่องในสังคมไทยปัจจุบันและมีแนวโน้มว่าความขัดแย้งนี้จะลุกลามไปอย่างไม่สิ้นสุด จนบัดนี้ได้สร้างความแตกแยกในบ้านเมืองอย่างร้าวลึก7 องค์กรภาคเอกชนเห็นว่า มีความจำเป็นต้องแสวงหาทางออกอย่างเร่งด่วนจึงได้ร่วมกันจัดเวทีกลางเพื่อรับฟังความเห็นและแนวทางแก้ไขจากกลุ่มต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งที่เป็นคู่ขัดแย้ง กลุ่มประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทูตานุทูต และภาคธุรกิจต่างประเทศมาโดยตลอด ทุกฝ่ายเห็นร่วมกันว่า จำเป็นต้องมีการปฎิรูปอย่างเร่งด่วนเพื่อความผาสุกอย่างยั่งยืนของประเทศเป็นสำคัญ
7 องค์กรภาคเอกชนได้รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนอย่างครอบคลุมแล้ว ต่างมีความเห็นว่าไม่อยากให้ประเทศเข้าสู่สภาวะสิ้นหวัง และมองเห็นสถานการณ์เป็นโอกาสและเป็นหน้าต่างแห่งทางเลือกซึ่งบัดนี้เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่งว่าสถานการณ์ได้มีการพัฒนาไปในทางที่ไม่ใช้ความรุนแรงมาโดยลำดับจึงใคร่ขอบคุณทุกฝ่ายที่ใช้ความอดกลั้นและขันติธรรมมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม 7 องค์กรภาคเอกชนเห็นว่าแม้การพัฒนาได้เป็นไปในทางที่ไม่ใช้ความรุนแรง แต่ก็ยังไม่สามารถหาทางออกให้กับประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ การยุติความขัดแย้งจึงจำเป็นที่จะต้องฟังเสียงเครือข่ายปฏิรูปที่มีความหลากหลาย และได้เชิญองค์กรและบุคคลหลายฝ่ายมาร่วมสะท้อนความเห็นจนได้ข้อสรุปว่ามีความจำเป็นต้องเดินหน้าสู่การปฏิรูปทันที โดยมีกระบวนการปฏิรูปดังนี้
จัดตั้งองค์กรที่ทำหน้าที่ปฏิรูปในทันทีก่อนการเลือกตั้ง โดยความเห็นชอบของพรรคการเมืองและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายและมีการรับรองตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ทุกฝ่าย เช่น อาจออกเป็นพระราชกำหนด โดยองค์กรนี้เป็นองค์กรที่ปลอดจากอิทธิพลทางการเมือง และวาระการทำงานขององค์กร เป็นวาระแห่งชาติเพื่อทำการปฏิรูปโดยเฉพาะ
สำหรับกรอบประเด็นสำคัญของการปฏิรูปมีดังต่อไปนี้ กติกาการเข้าสู่อำนาจรัฐที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ร่วมกัน เช่นระบบการเลือกตั้ง ที่ปราศจากการซื้อเสียงและใช้อิทธิพลใดๆ และความโปร่งใสของกระบวนการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่าง ๆ
การตรวจสอบและถ่วงดุลการใช้อำนาจรัฐของผู้แทนประชาชน องค์กรอิสระ และสถาบันทางการเมืองต่างๆ เช่น เรื่องการแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการ
การขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ภาคเอกชน ตลอดจนในภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม โครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมที่เอื้อต่อการสร้างความเป็นธรรมในการจัดสรรและเข้าถึงทรัพยากรในสังคม และลดความเหลื่อมล้ำโดยมีการส่งเสริม การเพิ่มผลิตภาพของประชาชน ให้พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
โครงการที่จะมีผลกระทบต่อประชาชน ระบบเศรษฐกิจ และวินัยการคลัง ควรต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยถือผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก
กระบวนการยุติธรรมที่สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่าจะได้รับความเป็นธรรมอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ 7 องค์กรภาคเอกชนมีความเห็นว่าการปฏิรูปมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด และต้องทำทันที ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด จึงใคร่ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนี้ 7 องค์กรภาคเอกชนใคร่ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายใช้ความสุขุมรอบคอบและวิจารณญาณที่จะช่วยแก้ไขปัญหาชาติโดยขอเรียกร้องดังนี้
ให้นักการเมืองและคู่ขัดแย้งทางการเมืองทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงผลเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติและหันมาเจรจาหาทางออกจากวิกฤตการทางการเมืองนี้ร่วมกันบนพื้นฐานของผลประโยชน์ของชาติตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข
ให้ทุกฝ่ายแสดงความจริงใจต่อการแก้ปัญหาของประเทศ โดยเข้าร่วมกระบวนการปฏิรูป
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีภารกิจหลักในการสนับสนุนการปฏิรูปตามข้อเสนอแนะขององค์กรเพื่อการปฏิรูปและในเวลาเดียวกันให้บริหารประเทศและเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดการสะดุดและชะงักงันต่อการพัฒนาประเทศ และควรทำภารกิจข้างต้นให้เสร็จสิ้นอย่างเร็วที่สุดแต่ไม่ควรเกิน 1 ปี