ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษดังกล่าวสอดคล้องกับ พ.ร.บ.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ.2550 มาตรา 5 มาตรา 19 และมาตรา 39 จึงได้ออกประกาศกระทรวงคมนาคมดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นให้ผู้ใช้รถบนทางพิเศษสายดังกล่าวไม่ต้องเสียค่าผ่านทางพิเศษตามอัตราที่ประกาศตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2556 เวลา 00.01 นาฬิกา จนถึงวันที่ 3 มกราคม 2557 เวลา 24.00 นาฬิกา ซึ่งคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้มีมติเห็นชอบและ รมว.คมนาคม ได้ให้ความเห็นชอบและลงนามในประกาศกระทรวงคมนาคมดังกล่าวแล้ว
การดำเนินการยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษดังกล่าว คาดว่าจะมีปริมาณจราจรที่ใช้ทางพิเศษทั้งสิ้น 1,252,768 คัน จะทำให้สูญเสียรายได้ประมาณ 48,857,952 บาท แต่จะได้ผลประโยชน์ตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจประเมินเป็นมูลค่าเงินจำนวน 22,168,936 บาท ซึ่งประกอบด้วยมูลค่าจากการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้รถ(Vehicle OperatingCost Saving:VOC Saving) 8,429,152 บาท และมูลค่าจากการประหยัดเวลาในทางเดินทาง(Value of Time Saving:VOTSaving) 13,739,784 บาท
อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากผลประโยชน์ที่ประเมินเป็นมูลค่าเงินได้(VOC Saving, VOTSaving) ยังมีผลประโยชน์ที่ไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าเงินได้ ได้แก่ ความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ต่อผู้ใช้ทางพิเศษ และลดมลพิษทางอากาศบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ อีกทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางพิเศษ ในช่วงเทศกาลที่มีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก และเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบของ กพท. ที่มีต่อประชาชนเพื่อให้เกิดเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยงาน และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมาใช้ทางพิเศษบูรพาวิถีมากขึ้น และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการอำนวยความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน