พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้มีการแทรกแซงหรือเกี่ยวข้องกับการตั้งคณะกรรมการ 11 คน และไม่มีคนของรัฐบาล 8 ใน 11 คน ของคณะกรรมการตามที่มีการกล่าวอ้าง เนื่องจากคณะกรรมการถูกเลือกมาจากสองพันคนขององค์กรหน่วยงานต่างๆที่มีการเลือกสรรกันเองไม่เกี่ยวกับ 11 คนของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น ขณะที่ปฏิเสธว่า คณะกรรมทั้ง 11 คนที่เสนอไป ไม่ได้ถือว่าเป็นทางที่ดีที่สุด แต่มองว่าเป็นการเริ่มต้นเพื่อจะรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเอง เนื่องจากผ่านพ้นจุดความรู้สึกมาแล้ว แต่ยืนยันจะทำหน้าที่รักษาระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ในการรักษาการในตำหน่งนายกรัฐมนตรี และประคับประคองสถานการณ์บ้านเมืองภายใต้กรอบของกฎหมายต่อไป และอยู่ที่คนจะมองว่าข้อเสนอของรัฐบาลที่เสนอมาแต่ละข้อนั้นสายเกินไป ซึ่งรัฐบาลยินดีรับฟังทุกความเห็นและต้องควบคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุดเพื่อต้องการหาทางออกประเทศได้อย่างแท้จริง โดยได้กล่าวเปรียบเทียบว่าถ้าเป็นถนนที่ขลุกขลักมีขวากหนาม ซึ่งเป็นหนทางเดียวก็ขอเดินไปต่อ ดีกว่าต้องเดินเข้าป่าทึบที่ไม่รู้ว่าจะเจอกับใครบ้าง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังระบุอีกว่า การประกาศขยายเวลา พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นเพียงการขยายเวลาเท่านั้น ไม่มีการเพิ่มมาตรการใด ใช้การรักษาความปลอดภัยตามเดิม โดยเฉพาะบริเวณสถานที่รับสมัครสนามกีฬาเวสน์ 2 ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงรวมถึงรอบบ้านพักของตนเองในซอยโยธินพัฒนา 3 โดยกำชับจนท.ให้ยึดหลักสากลในการดูแลความสงบเรียบร้อยและใช้ความอดทนในการควบคุมฝูงชน ซึ่งตนเองไม่อยากเห็นการใช้ความรุนแรง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ กกต.บางคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็น อาจส่งผลให้สถานการณ์ไม่จบว่า ขอให้แต่ละคนทำหน้าที่ของตนและหวังว่าจะให้ความเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่