กรณีที่ กกต.ระบุว่า ปรากฏการณ์ความรุนแรงยิ่งจะทวีความรุนแรงขึ้น หากเดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไปนั้น การเลื่อนการเลือกตั้งออกไป กลับยิ่งจะทำให้เกิดความวุ่นวายและมีความรุนแรงมากกว่า และในเวลาที่นานกว่า เพราะเมื่อมีการเลือกตั้ง ได้สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และการปฏิรูปประเทศจะได้ดำเนินไปโดยผู้ที่ได้รับอาณัติจากพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และมีโอกาสได้รับการยอมรับจากประชาชนมากกว่า
เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่บริเวณอาคารกีฬาเวสน์ 2 ดินแดงในวันนี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บจากกระสุนปืนและวัตถุระเบิดอีก 25 นาย และผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งนั้น ไม่ควรจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเมื่อวานนี้วันที่ 25 ธันวาคม 2556 มีการประสานงานจากสำนักงาน กกต.ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อขอให้เตรียมลงในราชกิจจานุเบกษา ประกาศ กกต.เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง แต่ก็น่าเสียดาย เพราะในที่สุดมีการแจ้งยกเลิก ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจได้ว่ากกต.งไม่มีมติให้เปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัครดังกล่าว กกต.นั้นมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายในการจัดการเลือกตั้ง รัฐบาลได้แจ้งต่อ กกต.ว่าพร้อมจะสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่
การที่ กกต.เสนอให้รัฐบาล คู่ขัดแย้ง และทุกภาคส่วนในสังคม ทำความเข้าใจและสร้างข้อตกลงร่วมกันเพื่อความสงบสุขในสังคมนั้น รัฐบาลพยายามแล้วที่จะเปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหาข้อสรุปร่วมกันมาหลายครั้ง แต่ก็มีบางฝ่ายที่ไม่เข้ามาร่วมในเวทีดังกล่าว หาก กกต.เสนอตนเป็นคนกลางในการเชิญทุกฝ่ายเข้ามาหารือ กกต.ก็สามารถกระทำได้ โดยสามารถเริ่มต้นเชิญฝ่ายผู้ชุมนุมมาหารือได้ทันที กระบวนการหารือนี้สามารถทำไปได้พร้อม ๆ กับการเลือกตั้ง