ทั้งนี้ ทางกองทัพจะเคลื่อนย้ายไปจัดแสดงในสองพื้นที่ ได้แก่ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) สนามเป้า กทม. และกองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะ และจะเคลื่อนย้ายเฮลิคอปเตอร์จาก จ.ลพบุรี มายังพล.ม. 2 รอ. ในเวลา 11.00-12.00 น. และในเวลา 19.00-22.00 น.จะมีการเคลื่อนย้ายยานเกราะล้อยาง รถถังปืนใหญ่ รถลาดตระเวน (ฮัมวี่) รถกู้ภัย รถสายพานอเนกประสงค์ รถเกราะจากหน่วยทหารในพื้นที่ จ.ราชบุรี จ.ลพบุรี จ.ปราจีนบุรี และเขตดุสิตเขตพญาไท เขตหลักสี่ กทม.ไปยังสถานที่จัดงานวันเด็กทั้งสองแห่ง
สำหรับเส้นทางการเคลื่อนย้ายจะผ่านถนนต่างๆ ได้แก่ ถ.เพชรเกษม ถ.ปิ่นเกล้านครชัยศรี ถ.วิภาวดีรังสิต ถ.ทหาร ถ.พหลโยธินถ.ประดิพัทธ์ ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นต้น และการเคลื่อนย้ายกลับที่ตั้งก็จะใช้เส้นทางเดิม
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การเคลื่อนกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาพื้นที่ใน กทม.ช่วงนี้ มาเพื่อร่วมกิจกรรมในงานวันเด็กและร่วมกิจกรรมในงานพิธีสวนสนามฯ เนื่องในวันกองทัพไทย ซึ่งอยู่ในปฏิทินแผนการปฏิบัติตามวงรองประจำปี ซึ่งถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นปีแล้ว มิใช่จะเพิ่งกำหนดขึ้นแบบเร่งด่วนเป็นกาลเฉพาะในช่วงนี้
ทั้งนี้ วันกองทัพไทย 18 ม.ค.ถือเป็นวันสำคัญทางทหาร ในโอกาสนี้เอง ทบ.จึงได้จัดให้มีกิจกรรมการแสดงออก ถึงแสงยานุภาพความพร้อมในทุกด้านทั้งด้านกำลังพล และยุทโธปกรณ์ต่อสาธารณะชนทั้งภายในและภายนอกประเทศ การดำเนินกิจกรรมเป็นไปในรูปแบบที่เปิดเผยไม่ได้กระทำในลักษณะปกปิดแต่อย่างใด การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวขณะนี้กำหนดขึ้นได้เพียงปีละครั้งเดียวเท่านั้น และยุทโธปกรณ์ที่นำมาร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่จะเป็นยุทโธปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงและมีความทันสมัยต่อการตอบสนองภารกิจเพื่อการป้องกันประเทศเป็นหลักเท่านั้น
"ยืนยันอีกครั้งการดำเนินกิจกรรมของ ทบ.นึ้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองอย่างที่มีบางฝ่ายได้ให้ข้อมูลไว้อย่างแน่นอน"รองโฆษก ทบ.กล่าว