ทั้งนี้ หากพบว่าสถานการณ์การชุมนุมในวันดังกล่าวมีแนวโน้มจะใช้เกิดความรุนแรงหรืออยู่ในภาวะคับขันในเชิงก่อการร้าย และมีแนวโน้มว่าจะใช้ความรุนแรงในการประทุษร้ายต่อร่างกายและทรัพย์สิน ก็สามารถประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ทันทีโดยการลงนามในคำสั่งของนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม พล.ท.ภราดร ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 13 ม.ค.เพราะทราบว่ามีกลุ่มบุคคลที่มีความพยายามให้เกิดความรุนแรงขึ้น จึงขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับมือที่สามที่อาจเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมากและมาจาก 2 กลุ่มที่สำคัญ กลุ่มแรก คือ มวลชนที่มาจากภาคใต้ เริ่มทยอยเคลื่อนเข้ามาในกรุงเทพในช่วงวันที่ 9-12 ม.ค.และอีกส่วนเป็นมวลชนจาก กทม.จากผลของการเดินรณรงค์เชิญชวนของกลุ่ม กปปส.ในวันที่ 5,7 และ 9 ม.ค.นี้
สำหรับแผนการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมในวันที่ 13 ม.ค.นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลบริเวณพื้นที่การชุมนุมและทำหน้าที่เผชิญเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจะอยู่ในที่ตั้ง