ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การปฏิวัติจะไม่เป็นผลดี เห็นได้จากที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เป็นวิธีที่ต่างประเทศไม่ให้การยอมรับ และหากรุนแรงจะมีผลเสียตามมามากมาย โดยเห็นว่าการพูดคุยด้วยสันติวิธีจะเป็นทางออกที่ดีกว่า และเชื่อว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพจะคำนึงถึงในจุดนี้มากกว่า และหวังว่าทุกฝ่ายจะน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปยึดปฎิบัติ
ส่วนการดูแลสถานการณ์การชุมนุมวันที่ 13 ม.ค.นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน โดยเน้นเรื่องการป้องกันและปราศจากอาวุธ ขอให้มีผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด พร้อมขอร้องให้ทุกฝ่ายปฎิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน
"ขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายในการดูแลบ้านเมือง โดยเฉพาะวันที่ 13 ม.ค.ให้ผ่านไปด้วยดี ไม่อยากให้มีการปะทะ ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง...ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะดูแลอย่างเต็มที่ ในขณะที่ขั้นตอนต่างๆ ทาง ศอ.รส.จะออกมาชี้แจงเป็นลำดับ"นายกรัฐมนตรี กล่าว