ในการบรรยายสรุปดังกล่าว กระทรวงฯ ได้เล่าถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทยในขณะนี้ และแผนป้องกันและรักษาความปลอดภัยของรัฐบาล พร้อมชี้แจงว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาด้วยหลักสันติวิธี และคงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งรัฐบาลเปิดกว้างพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะการปฏิรูปการเมืองที่สอดคล้องภายใต้รัฐธรรมนูญ
นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานทูตมากขึ้น โดยเฉพาะสถานทูตที่อยู่ในจุดใกล้เคียงกับกลุ่มผู้ชุมนุมจะปิดถนน เช่น ย่านสีลม สาทร ถนนวิทยุ และแจังช่องทางในการติดต่อกับรัฐบาลได้ตลอด 24 ชั่วโมง เบื้องตันยังไม่มีสถานทูตใดจะปิดทำการ
ทั้งนี้ คณะทูตต่างประเทศได้แสดงความกังวลและห่วงใย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่จะมีการชุมนุมในวันที่ 13 ม.ค.นี้ จำนวน 20 แห่ง ในถนนสีลม ถนนสาทร และถนนวิทยุ ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานและการเดินทาง ดังนั้นประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพภายใต้อนุสัญญากรุงเวียนนา มีพันธะผูกพันต้องดูแลความปลอดภัยต่อการปฏิบัติหน้าที่และการเดินทางของนักการทูต
ด้านทูตฝรั่งเศส แสดงความกังวลและได้หยิบยกเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคยตัดไฟสถานทูตฝรั่งเศสขึ้นมาหารือ โดยคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการดูแลที่เพียงพอ ขณะที่ทูตเยอรมนี ได้แสดงความกังวลต่อการบุกยึดสนามบิน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความมั่นใจตามคำยืนยันของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ที่ระบุว่าจะไม่มีการปิดล้อมสนามบิน อย่างไรก็ตาม คณะทูตไม่มีการสอบถามถึงแนวโน้มการปฏิวัติรัฐประหาร