อย่างไรก็ดี ส่วนตัวแล้วอยากเห็น กกต.เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย เพราะถือเป็นแม่งานหลักที่จะได้รับฟังข้อคิดเห็นโดยตรงจากผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพรรคการเมือง ซึ่งจะทำให้ กกต.นำข้อมูลที่ได้ไปแก้ปัญหาให้ตรงจุด พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะมีความพยายามจะเชิญพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ให้เข้าร่วมการพูดคุยต่อไป เพราะอยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์แสดงเจตนารมย์ในการเลือกตั้ง และยอมรับในกติกา เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าได้
นอกจากนี้ จะได้หารือกันถึงข้อเสนอจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ที่ได้แสดงความกังวลต่อการใช้งบประมาณเพื่อจัดการเลือกตั้ง โดยเกรงว่าจะเป็นการเสียงบประมาณโดยสูญเปล่า ซึ่งที่ประชุมคงจะต้องหาข้อสรุปในปัญหานี้ร่วมกันด้วย
นายกรัฐมนตรี เห็นว่า ขณะนี้ปัญหาการเลือกตั้งต้องแยกการพิจารณาเป็น 2 ส่วนคือ การบริหารจัดการเลือกตั้ง และปัญหาข้อกฎหมาย ดังนั้นรัฐบาลจึงเสนอขอรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ตามที่ กตต.เสนอมาในเอกสาร
พร้อมย้ำว่า ขณะนี้รับทราบข้อเสนอของผู้ชุมนุมแล้วที่เรียกร้องให้เกิดการปฎิรูป และส่วนตัวอยากให้หันมาใช้เวทีการพูดคุยกันจะดีกว่า เพราะการชุมนุมมีแต่ทำให้ประเทศเสียหายและประชาชนได้รับความเดือดร้อน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือให้ใช้เวทีปฎิรูปเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด และยึดกติกาให้บ้านเมืองเดินหน้า
สำหรับกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าได้ปฎิบัติหน้าที่ตามตำแหน่ง แต่ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งหรือรักษาเสียรภาพทางการเมือง ทั้งนี้เป็นการทำหน้าที่รักษาประชาธิปไตย ซึ่งประชาชนคือเจ้าของอธิปไตย