สำหรับจุดที่น่าจะมีการรบกวนคลื่นสัญญาณดาวเทียมไทยคม มีจำนวน 3 จุดด้วยกัน คือ ดาวเทียมไทยคมเองที่จะส่งสัญญาณไปรบกวนกันเอง, มีการส่งสัญญาณไปรบกวนขณะที่มีการชุมนุมปราศรัยอยู่ และจุดที่มีการ UPLINK สัญญาณของดาวเทียมไทยคม ซึ่งมีอยู่ 2 จุด คือ สถานีดาวเทียมไทยคมแครายและลาดหลุมแก้ว โดยสำนักงานฯได้ส่งรถเข้าไปตรวจสอบเพื่อรายงานคลื่นสัญญาณความถี่วิทยุเข้าไปประจำการใน 2 จุดดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้จากการดำเนินงานของกสทช.ได้มีการดำเนินงานภายใต้พระราชบัญญัตวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ ทั้งจำและปรับ และตามประมวลกฎหมายอาญา เข้าข่ายกระทำการอันเป็นความผิดต่อกฎหมายก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ระบบโทรคมนาคม หากการมีเจตนาเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ผู้นั้นกระทำความผิดฐานก่อการร้าย จะต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 3-20 ปี และปรับตั้งแต่ 6 หมื่นถึง 1 ล้านบาท และดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัตประกอบกิจการโทรคมนาคมด้วย
นอกจากนี้ได้มีการรายงานผลการตรวจสอบคุณภาพสัญญาณของการให้บริการโทรสัพท์เคลื่อนที่ ทางสำนักงาน กสทช.มีการส่งรถเข้าไปตรวจสอบคุณภาพสัญญาณการให้บริการโทรสัพท์เคลื่นที่จำนวน 2 คัน ในบริเวณจุดที่มีการชุมนุมทั้งหมด 7 จุด และมีการส่งรถเข้าตรวจสอบสัญญาณการใช้คลื่นความถี่ อีกจำนวน 3 คันเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผลการตรวจสอบคุณภาพสัญญาณการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในวันที่ 13 ที่ผ่านมาในช่วงเช้าระบบสัญญาณการใช้คลื่นความถี่ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ในช่วงเย็นที่มีผู้ชุมนุมเพิ่มขี้นเป็นจำนวนมากสัญญาณของการใช้บริการโทรสัพท์เคลื่อนที่เริ่มมีความขัดข้อง และการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงมีความเร็วลดลง
ทาง กสทช.ได้มีการแจ้งผู้ประกอบการทั้ง 3 รายได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ.โทเทิ่ล แอ็สเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) รวมถึง บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท.โทรคมนาคม (CAT )ให้แก้ไขปรับปรุง โดยให้นำรถขยายช่องสัญญาณเข้าไปเพิ่ม ในบริเวณจุดที่มีการชุมนุม ซึ่งทางสำนักงาน กสทช.จะมีการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง