"ทุกๆ หกเดือนก็จะหายไปประดิษฐ์ฉายาที่เจ็บแสบมาใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อให้ได้พื้นที่ข่าว ทั้งๆ ที่เนื้อหาการแถลงข่าวก็มาแนวเดิมทุกครั้ง เป็นการสรุปด้านเดียวที่ฉาบฉวย เน้นการด่าและวาทกรรมเป็นหลัก ไม่เคยพูดถึงด้านดีและผลงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่น การเข้าสู่อำนาจผ่านการเลือกตั้ง ผลงานการประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่องค์การอนามัยโลกยกย่องให้เป็นตัวอย่างการดูแลสุขภาพในประเทศกำลังพัฒนา การสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ การให้คนจนเข้าถึงแหล่งทุน เป็นต้น แต่ผมก็ไม่คาดหมายจะได้เห็นคุณภาพและความเป็นกลางจากตัวนายธีรยุทธอยู่แล้ว" นายนพดล กล่าว
ส่วนกรณีที่นายธีรยุทธประกาศสนับสนุนม็อบคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ก็เป็นสิทธิส่วนตัว แต่ที่บอกว่าม็อบใช้สันติวิธีเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองนั้นเป็นเท็จ
"ผมขอถามนายธีรยุทธว่าการยึดสถานที่ราชการ การใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ การขัดขวางปิดกั้นไม่ให้คนสมัครลงรับเลือกตั้งเป็นสันติวิธีหรือไม่ ในเวลานี้นายธีรยุทธกลับไม่ได้แสดงท่าทีสนับสนุนการเลือกตั้งที่ทำให้เห็นคุณค่าความเท่าเทียมกันของมนุษย์หนึ่งคนหนึ่งเสียง" นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า ประเทศควรหรือไม่ที่จะเอาภาษีประชาชนไปจ่ายเป็นค่าจ้างนักวิชาการเลือกข้างที่เอาเวลาไปรวบรวมอคติส่วนตัวมาโจมตีฝ่ายตรงข้ามแบบทำอะไรก็ผิด ทำอะไรก็เลว ทั้งๆ ที่ในชีวิตจริง มันไม่มีคนชั่วร้อยเปอร์เซนต์หรือคนดีที่ไม่เคยทำผิด ดังนั้นในบั้นปลายชีวิตของนายธีรยุทธควรปรับปรุงการทำงานให้มีคุณภาพมากขึ้น หากอยากเล่นการเมืองก็ควรสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คงไม่มีใครว่า