ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จากการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดว่า ไม่เกินวันที่ 27 ม.ค.นี้ กระบวนการ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะใช้ควบคุมการชุมนุมทางการเมืองจะแล้วเสร็จ พร้อมมอบหมายให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เข้ามาร่วมดูแลด้วย
สำหรับวันพรุ่งนี้ ศรส.จะประชุมติดตามสถานการณ์การชุมนุมอีกครั้ง แต่ไม่ขอเปิดเผยสถานที่ พร้อมทั้งขอร้องแกนนำว่า อย่าไปยึดสถานที่ราชการ เพราะไม่ใช่การปฏิรูปการเมือง เนื่องจากข้าราชการทำงานไม่ได้ ถ้าจะปฏิรูปก็ให้ลงเลือกตั้งถ้าชนะนายสุเทพก็เป็นรัฐบาล ถ้าผู้ชุมนุมยังชุมนุมต่อไปถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายเพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินบังคับใช้แล้ว
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ย้ำไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม และยึดหลักปฏิบัติ 5 ข้อคือ ใช้กฏหมายเป็นหลักในการแก้ปัญหา, ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, ให้ผู้ชุมนุมใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญชุมนุมโดยสงบสันติ ปราศจากอาวุธ, การดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมของเจ้าหน้าที่จะยึดหลักสากลเน้นการเจรจาเป็นหลัก ไม่ใช้ความรุนแรงหรือกำลังเข้าสลายการชุมนุม และขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมต้องเคารพสิทธิผู้อื่น
ร.ต.อ.เฉลิม ยังปฏิเสธกระแสข่าวเตรียมใช้เงินงบประมาณของกระทรวงแรงงานเข้าไปใช้จ่ายในโครงการรับจำนำข้าว เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว