"กระผมเข้าใจว่าสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยมีการรายงานเหตุการณ์ในประเทศไทยตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนอยู่แล้ว และท่านคงเข้าใจเหตุการณ์และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องในการเมืองไทยได้เป็นอย่างดี" นายนพดล ระบุ
นายนพดล ชี้แจงว่า การที่นายสุเทพกล่าวว่า กปปส.มีจุดประสงค์เพื่อโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งได้รับอำนาจโดยตรงผ่าน พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ขอเรียนว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับเสียงข้างมากจากประชาชนทั้งประเทศผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่รัฐบาลเผด็จการ และขณะนี้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สิ้นสุดความเป็นรัฐบาลแล้ว เพียงแต่ต้องรักษาการไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง และในฐานะนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญเฉกเช่นเดียวกันกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาของนายสุเทพ
และที่นายสุเทพกล่าวหาว่า ครอบครัวชินวัตรใช้อำนาจการปกครองประเทศอย่างกดขี่ข่มเหง ทุจริต และไม่สนใจต่อสิทธิมนุษยชน เป็นความเท็จทั้งสิ้น ครอบครัวชินวัตรไม่มีอำนาจปกครองประเทศ แต่ประชาชนเลือกพรรคการเมืองที่มีคนนามสกุลชินวัตรเป็นสมาชิกอยู่ และประชาชนก็เลือกพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ซึ่งชนะการเลือกตั้งทั่วไปเหนือพรรคประชาธิปัตย์ทุกครั้ง ซึ่งอาจเป็นเหตุให้นายสุเทพไม่พอใจตระกูลชินวัตร และใส่ร้ายอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเลขาธิการพรรค ที่ไม่สามารถนำพรรคชนะพรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ในขณะที่อยู่ในตำแหน่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยใช้ความรุนแรงสั่งให้สลายการชุมนุมจนทำให้ประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยต้องเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว
ส่วนที่นายสุเทพกล่าวหาว่า พรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าสู่อำนาจด้วยการซื้อสิทธิ์ขายเสียงและการจัดการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส ขอตั้งคำถามว่า นายสุเทพกำลังกล่าวหาคณะกรรมการการเลือกตั้งของประเทศไทย ที่จัดการเลือกตั้งไม่โปร่งใสหรือไม่ เพราะความจริงแล้วพรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านการเลือกตั้งอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม เพราะมิฉะนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้งคงไม่รับรองผลเลือกตั้ง และสามารถให้ใบเหลืองหรือใบแดงแก่ผู้สมัครตามกฎหมาย และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่นายสุเทพสังกัดก็เคยได้ฝ่าผืนกฎหมายเลือกตั้งหลายคนเช่นกัน
การที่นายสุเทพบอกว่ากลยุทธ์ของกลุ่ม กปปส.นั้น คืออารยะขัดขืน กระผมไม่เข้าใจว่าอารยะขัดขืนของนายสุเทพหมายความเช่นไร แต่ความจริงคือ การเคลื่อนไหวของ กปปส. มีการใช้ความรุนแรง มีการยึดและปิดล้อมสถานที่ราชการ ปิดล็อกประตู ข่มขู่ข้าราชการ ไม่ให้ทำงาน ปิดถนนหลวงไม่ให้สัญจรไปมา ข่มขู่สื่อสารมวลชนให้เสนอข่าวตามที่ตนต้องการ ซึ่งผิดความหมายของคำว่า อารยะขัดขืนโดยสิ้นเชิง
และการที่นายสุเทพระบุว่าจะมีการปฏิรูปประเทศก่อนจึงจะมีการเลือกตั้งนั้น เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อให้ได้อำนาจในการปกครองประเทศโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง เพราะพรรคที่นายสุเทพสังกัดแพ้เลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมานอกจากนั้นการอ้างว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เท่ากับนายสุเทพไม่ให้ความสำคัญคณะกรรมการการเลือกตั้งของประเทศไทยที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมได้ใช่หรือไม่
"กระผมขอเรียนเพิ่มเติมว่า กปปส.และบุคคลที่มาร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลสามารถใช้สิทธิของตนตามรัฐธรรมนูญได้ ตราบใดที่การชุมนุมสงบและปราศจากอาวุธ แต่ กปปส.ไม่มีสิทธิอันชอบธรรมอย่างใดเลยที่จะละเมิดเสรีภาพของประชาชนอีก 40 กว่าล้านคนที่ประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อกำหนดอนาคตของประเทศ ทั้งตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทย และตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ เป็นหลักประกันสิทธิและเสรีภาพของชาวอเมริกันฉันใด ย่อมเป็นหลักประกันในเรื่องดังกล่าวแก่ประชาชนคนไทยฉันนั้น" นายนพดล ระบุ